‘ษัษฐรัมย์’ เชื่อ คนรุ่นใหม่ต้องชนะ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว ปัจเจกชนอ่อนแอได้ แต่อุดมการณ์เที่ยงตรง

‘ษัษฐรัมย์’ เชื่อ คนรุ่นใหม่ต้องชนะ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว ปัจเจกชนอ่อนแอได้ แต่อุดมการณ์เที่ยงตรง

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพมหานคร หนังสือพิมพ์มติชนเปิดเวที ‘Talks for Thailand รัฐ ลวง ลึก’ โดยเลือกสรรวิทยากรชั้นนำระดับแถวหน้าของแต่ละปัญหามาสะท้อนภาพให้มองเห็นแบบเจาะลึก ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาอำนาจไม่ยอมกระจาย ปัญหาลับ ลวง ล่อ ปัญหาความมั่นคงหลงทิศ และปัญหาความยุติธรรม วิทยากรจะร่วมฉายภาพสิ่งที่เกิดขึ้นและบั่นทอนความอดทนของคนไทย เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักและเร่งสกัดมิให้บานปลายไปมากกว่านี้

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บรรยายในหัวข้อ ‘เหลื่อม ล้ำ ลึก’ โดยกล่าวว่า สังคมไทยกำลังเจอกับวิกฤตบางอย่าง วิกฤตเหล่านั้นคือ วิกฤตความเชื่อมั่นต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคม

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ยกตัวอย่างถึงเหตุการณ์สอดคล้องกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวว่า ตนสอนวิชาขบวนการการเคลื่อนไหวมาเป็นเวลา 10 ปี และไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลับกลายเป็นวิชาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้จะไม่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่า หากจะสร้างสังคมที่ดีขึ้นมาใหม่ สิ่งที่สำคัญคือต้องช่วยเหลือกัน เนื่องจากมนุษย์เราไม่สามารถมีชีวิตรอดด้วยตนเองได้

ADVERTISMENT

“นักศึกษาคนหนึ่งตอบผมว่า เขาค้นพบแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาตัวรอดในโลกใบนี้คนเดียวได้ เขาเลือกมาเรียนวิชานี้ เพราะเขาเชื่อว่า หากจะสร้างสังคมขึ้นมาใหม่ได้ เราต้องช่วยกัน เพราะเราทำคนเดียวไม่ได้ ปัจเจกคนอาจจะพ่ายแพ้ อ่อนแอ ทรยศ หรือหักหลัง แต่อุดมการณ์ไม่สามารถทรยศ หรือหักหลังต่อผู้คนได้ อุดมการณ์คือสิ่งที่เที่ยงตรง” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าว

ADVERTISMENT

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าภาพของนักศึกษาในชั้นเรียนของตนนั้นดูเศร้าหมอง เช่นเดียวกับภาพของพรรคก้าวไกล พรรคการเมืองที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม ความเสมอภาค ค่านิยมคนเท่ากัน การเอาฐานออกจากการเมือง ระบบบำนาญก้าวหน้าของประชาชน พรรคอันดับหนึ่งที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งนักศึกษาเหล่านั้นตอบตนว่า สิ่งเหล่านี้คือ ‘ความพ่ายแพ้’ ซึ่งตนยืนยันว่า นี่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่คือ ‘ชัยชนะ’

“พวกคุณชนะแน่นอน อาจจะไม่ได้ชนะตามมาตรวัดของพวกคุณ แต่พวกคุณชนะตามมาตรวัดของผม ผมอายุยังไม่เยอะ ปีนี้ 38 ปีเท่านั้น และผมผลักดันเรื่องรัฐสวัสดิการมาตั้งแต่อายุ 19 ซึ่งก็คือครึ่งชีวิตของผมพอดี แต่ผมไม่เคยมีความรู้สึกว่าผมชนะเลย แต่คนจากเหนือสุด ถึงใต้สุด คนที่ยากจนข้นแค้น คนที่เป็นหนี้ กยศ. คนที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย กล้าที่จะออกมายืนยันในสิ่งที่ประเทศนี้ควรจะเป็น เป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าไม่กล้าที่จะทำ หรือไม่ประสบความสำเร็จ แต่พวกคุณได้นำมันกลับ มา นำจิตสำนึกของ 6 ตุลา, พฤษภาทมิฬ, ปรีดีพนมยงค์, เทียนวัน หรือคนหลายรุ่นที่ยังมีชีวิตอยู่ และคนที่ล้มหายตายจากไป”

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ชัยชนะของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งไม่ได้เกิดจากยุทธศาสตร์ที่สูงส่ง แต่เกิดจากการเปิดสวิตช์ของคนรุ่นใหม่เมื่อ พ.ศ.2563-2564 ที่ผ่านมา ที่กล้าจะพูดตรงๆ กล้ากว่านักการเมืองที่มีเงินเดือนแสนอยู่ในสภา” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวอีกว่า การต่อสู้จากนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกล เพื่อไทย หรือพรรคการเมืองอื่นๆ แต่เป็นการต่อสู้ของ ‘คนข้างบน’ กับ ‘คนข้างล่าง’

“พวกคุณจะชนะไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว แม่ว่าผมจะไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาของตัวเอง แต่พวกคุณจะได้เห็น และได้ใช้ชีวิตกับมัน นี่คือเรื่องราวการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ที่ปรารถนาสังคมที่เสมอภาค” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image