เมื่อวันที่ 17 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ว่า แต่เดิมนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ อคส. ซึ่งสังกัดกระทรวงพาณิชย์ มารับซื้อยางพาราจากเกษตรกรนั้น ส่งผลให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งสนิทสนมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) มานาน แสดงออกนอกหน้าด้วยอาการน้อยใจที่ไม่ได้รับความไม่ไหวเนื้อเชื่อใจจากรัฐบาล ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงปลอบใจว่า ไม่คิดปลดออกจากตำแหน่ง แต่จะตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกด้วยซ้ำ รวมทั้งยังเปลี่ยนให้ กยท. มารับซื้อยางพาราด้วยมาตรแทรกแซงราคาอีกด้วย
นายจตุพร กล่าวว่า การเปลี่ยนมาเป็น การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มาแทรกแซงราคายางนั้น นายกฯไม่ชี้แจงเอง แต่ให้นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตร ในฐานะคณะกรรมการพัฒนายางพาราทั้งระบบ ออกมาชี้แจงแทนว่า ขณะนี้ กยท.ได้เข้ามาทำการรับซื้อยางพารา 100,000 ตัน จากเกษตรกรโดยตรง เริ่มซื้อในวันที่ 25 มกราคมนี้ ในราคายางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 45 บาท และลดราคาลงมาตามสูตรความชื้น แล้วนำไปแปรรูปให้ 8 กระทรวงตามความต้องการใช้จริง ส่วนแต่เดิมให้ อคส. มาซื้อยางจากเกษตรกรนั้น อาจเกิดจากความคลาดเคลื่อน เพราะ อคส. ติดขัดระเบียบ
“วันที่เปลี่ยนจาก อคส.นั้น นายกรัฐมนตรีไม่กล้าพูดเอง ให้รองปลัดมาพูด บอกว่าทำไม่ได้ติดขัดระเบียบ มีด้วยหรือ เมื่อ มาตรา 44 ทำได้ทั้งนั้น ถ้า คสช.จะเอาจริง ทำได้หมด มีอะไรทำไม่ได้บ้าง ยกเว้นทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้คนหายยากจน” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงไปมาของนายกรัฐมนตรีสะท้อนถึงการถอยในแนวทางการแก้ปัญหา และเกิดขึ้นมาหลายกรณีแล้ว ซึ่งไม่ใช่เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงเฉพาะกรณีปลดกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อถูกนพ.มงคล ณ สงขลา และนพ.ประเวศ วะสี ออกมาตำหนิ ส่วนการถอยให้ กยท. เข้ามาแทรกแซงราคายางภาคใต้แทน อคส. ก็เกิดจากคนพวกเดียวกันแสดงความไม่พอใจเช่นกัน
ส่วนยางพาราในโครงการมูลภัณฑ์กันชนนั้น สมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรสวนยาง 14 จังหวัดภาคใต้ เรียกร้องให้ทหารเข้ามาตรวจสอบสต็อกยางตามโครงการนี้ เพราะกลัวจะถูกนำมาย้อมแมวขายในโครงการรับซื้อยาง รวมทั้งยังไม่รวมถึงยางในสต็อกยางของพ่อค้ารายใหญ่ เมื่อย้ายจาก อคส. ที่ไม่คุ้นเคยกับการซื้อยางแล้วเปลี่ยนมาเป็น กยท. เป็นคนซื้อตามมาตรการแทรกแซงราคา จึงทำให้ รัฐมนตรีหายหน้าบูด เลิกน้อยใจ ทิ้งอารมณ์งอนไปทันที
นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญกับการแทรกแซงราคายางขณะนี้ คือ ให้จับตายางในสต็อกของมูลภัณฑ์กันชนจะถูกนำมาขายแทนที่การรับซื้อยางจากเกษตรกร เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เนื่องจากแต่เดิมนั้น ให้ อคส. ซื้อทั้งหมดจากเกษตรกร แล้วลดลงมาให้ กยท. ซื้อในราคาแทรกแซงตลาด
ซึ่งในอดีตนั้นมาตรการนี้ รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ให้องค์การสวนยางเข้าไปซื้อยางพารา จึงทำให้นักการเมืองรู้เห็นกับพ่อค้า ซื้อยางในองค์การสวนยางในราคาเสื่อมสภาพ ทำให้สูญงบประมาณนับหมื่นล้านจากโครงการเช่นนี้ จนทำให้เลิกโครงการนี้ เนื่องจากมีปัญหา เกษตรกรได้เพียงเศษเงิน แต่กลุ่มผลประโยชน์ได้แบ่งปั่นงบประมาณกันมายาวนาน เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ รังเกียจคอร์รัปชั่น แต่คำถามของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ว่า ถ้าทุจริตจะรับผิดชอบหรือไม่ หากไม่มีอะไรเลย คงไม่มีรัฐมนตรีแสดงอาการหน้าบูด ซึ่งสิ่งนี้เห็นลายออกมากันชัดเจน