‘ยิ่งชีพ’ ขออภัยล่วงหน้า ‘ทำดีที่สุดแล้ว’ เดามีรายชื่อเสีย 10% ขอเก็บเอกสาร #conforall ไว้ก่อน เผื่อมีปัญหาอีก
สืบเนื่องกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ จัดแคมเปญ “เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%” #conforall โดยเดินหน้าล่ารายชื่อประชาชนตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าหมายให้ครบ 50,000 ชื่อ เพื่อนำไปยื่นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ให้เสนอคำถามสำหรับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งระหว่างการล่ารายชื่อ วันที่ 22 สิงหาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่าไม่รับรายชื่อที่ลงผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ยอดหายไปกว่า 40,000 รายชื่อ ภาคประชาชนจึงร่วมกันระดมรายชื่อผ่านทางกระดาษ กระทั่งวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา นำ 205,739 รายชื่อ ไปยื่น ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือ นั้น
เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) หนึ่งในเครือข่ายที่ร่วมผลักดันแคมเปญดังกล่าว โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงความคืบหน้าและรายละเอียดการยื่นรายชื่อที่ระดมมาจากภาคประชาชน
นายยิ่งชีพระบุว่า ขออนุญาตแจ้งให้ทุกคนที่ร่วมลงชื่อ #conforall กว่าสองแสน ทราบร่วมกันว่า กติการอบนี้ กกต.บอกให้ลงชื่อบนกระดาษก็จริง แต่เวลานำไปยื่นต้องสแกนเป็นไฟล์ PDF และกรอกข้อมูลทั้งหมดเป็นไฟล์ Excel ไปส่ง ดังนั้นกระดาษทั้งหมดที่ประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวและลายมือชื่ออันแท้จริงของท่าน ยังเก็บอยู่ที่ออฟฟิศในรูปแบบกระดาษในห้องทำงานของผม ซึ่งที่ผ่านมามันถูกใช้งานอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อการตรวจสอบรายชื่อผ่านไปแล้ว เรื่องนี้จบไปแล้ว เราจะจัดทำลายเอกสารทั้งหลายโดยไม่ให้เหลืออ่านออกว่าผู้ร่วมลงชื่อมีใครบ้าง แต่วันนี้ยังขอเก็บไว้ก่อนอีกนิดนึง เผื่อว่าไฟล์มีปัญหา หรือ กกต.มาทักท้วงภายหลัง ถึงความถูกต้องแท้จริงของเอกสารครับ
ในกระบวนการกรอกข้อมูลเป็นไฟล์ Excel มีคนมาร่วมเป็นอาสาสมัครมากกว่า 200 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของเราและองค์กรร่วมจัดงานทั้งหมด การคีย์ข้อมูลจะพิมพ์หมายเลข 13 หลักและชื่อกับนามสกุลเข้าในไฟล์ทีละบรรทัด โดยตั้งระบบใน Excel ไว้ว่า ถ้ากรอกเลข 13 หลักผิด มันจะเตือนขึ้นมาเพื่อให้คนที่กรอกตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ว่ากรอกถูกต้องแล้วหรือไม่ ดังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้น
1.คนที่ลงชื่อกรอกเลข 13 หลักมาผิด เกิน หรือไม่ครบ เราจะคีย์ข้อมูลตามที่ปรากฏบนกระดาษและส่งไป ถ้าขาด หรือเกิน รายชื่อก็คงจะไม่ถูกนับ ถ้ากรอกผิดแล้วไม่สามารถเข้าใจได้ว่าที่ถูกเป็นอย่างไร ก็จะเสียเช่นกัน
2.คนที่ลงชื่อกรอกเลข 13 หลักมาถูกต้องแล้ว แต่อาสาสมัครที่คีย์ข้อมูลเข้าไปนั้นผิดพลาด ถ้าผิดพลาดเล็กน้อยแล้วระบบตรวจสอบพบ ก็จะแก้ไข แต่ถ้าหากผิดพลาดแล้วมันดันเป็นเลขที่มีอยู่จริง ก็อาจจะตรวจสอบไม่ได้ และชื่อนั้นก็เสียไป
3.คนที่กรอกเลข 13 หลักมาแล้วโดยถูกต้อง แต่เขียนชื่อนามสกุลผิด หรือเขียนไม่เป็นปัจจุบัน หรืออ่านลายมือไม่ออก อาสาสมัครก็จะพยายามแกะลายมืออย่างสุดความสามารถ มีโอกาสอยู่มากที่จะแกะลายมือให้ถูกต้องไม่ได้จริงๆ หรือบางกรณีลายมืออาจจะอ่านออกแต่อาสาสมัครพิมพ์ผิดก็เป็นไปได้ กรณีเช่นนี้ถ้ากรอกเลข 13 หลักถูกต้องแล้ว เราไม่รู้ว่าทาง กกต.จะวินิจฉัยชื่อที่เขียนไม่ถูกเหล่านี้อย่างไร แต่ก็มีโอกาสที่จะวินิจฉัยว่าเสียอีกเหมือนกัน
“ในกระบวนการนี้ อาสาสมัครทุกคนทำรอบเดียวและไม่ได้มีการตรวจเช็กอีกรอบนึง ภายใต้ความเร่งรีบที่จะต้องยื่นและให้การตรวจสอบเอกสารเสร็จได้ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก เราไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ถ้าหากจะต้องให้เกิดการตรวจสอบความถูกต้องของทุกรายชื่อ น่าจะต้องใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์เพิ่ม
เราไม่มีสถิติที่แน่ชัด แต่จากที่ผ่านตาของผมเอง เดาว่าอาจจะมีรายชื่อที่เสียถึงประมาณ 10% ส่วนใหญ่เป็นเพราะลายมืออ่านไม่ออก รองลงมาเป็นเพราะกรอกเลข 13 หลักมาไม่ถูกต้อง จึงขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อตรวจสอบรายชื่อเสร็จแล้ว กกต.อาจประกาศว่ามีรายชื่อที่นับได้ไม่ถึง 200,000 ซึ่งก็เชื่อว่าเกิน 50,000 ผ่านเกณฑ์ของกฎหมายแน่นอน
ในนามส่วนตัว ผมต้องขออภัยผู้ที่แสดงเจตจำนงเข้าลงชื่อกับเราทุกคน ถ้าหากว่ารายชื่อของท่านไม่ถูกนับ เพราะข้ออ่อนของกระบวนการจัดการเอกสารในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลา เราทุกคนได้พยายามทำดีที่สุดแล้วเพื่อให้ทุกรายชื่อได้ส่งเข้ากระบวนการ
แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เราเรียนรู้ได้มาก และเชื่อว่าเราจะทำได้ดีขึ้นอีกในครั้งหน้า อย่างน้อยโดยการสื่อสารล่วงหน้าให้ทุกคนเขียนตัวบรรจงอย่างดี และกรอกเลข 13 หลักให้ถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่การลงชื่อหน้างานครับ ถ้าเรายังไหวกันสำหรับความท้าทายที่จะเข้ามาในโอกาสต่อไป” นายยิ่งชีพระบุ
- อ่านข่าว : กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ยื่น ‘เพื่อไทย-เศรษฐา’ เร่งแก้ รธน.ทันทีเมื่อประชุมครม.นัดแรก
- ยิ่งชีพ ปิดรับรายชื่อยอด #conforall คาดทะลุ 2 แสน ส่งเสียงให้ ครม.ชุดใหม่
