⦁…ชีวิตคืนสู่ความเป็นจริง “การเฉลิมฉลองผ่านไปแล้ว” ปฏิทินเข้าวันทำงานปกติ แม้จะเป็นการเริ่มต้นที่แตกต่างกันอยู่บ้าง เพราะบางคนอาจจะกลับมาด้วยความหวัง ความฝัน และแผนการดำเนินชีวิตในปีใหม่ ขณะบางคนโดยสารความเป็นไปของสถานการณ์เป็นผู้นำทางเหมือนเดิม แต่ในที่สุดแล้ว ล้วนต้องเผชิญความเป็นจริงชุดเดียวกัน
⦁…เท่าที่สดับตรับฟัง ติดตามการประเมินความเป็นไป เหมือนจะมีข้อสรุปร่วมกันว่า “ปีหน้าจะเป็นห้วงเวลาแห่งความสับสน” ด้วยแต่ละเรื่องราวที่กำหนดความเป็นไปของสถานการณ์ ล้วนแล้วแต่ไม่เพียง “แสดงแนวโน้มของความเปลี่ยนแปลง” เท่านั้น แต่ยังมากมายด้วย “ปัจจัยที่กดดันให้เกิดความไม่แน่นอน” ที่สำคัญคือคล้ายจะเป็นไปในทุกมิติ โดยเฉพาะประเทศไทยเรา ดูจะต้องเผชิญกับ “สภาวะเหนือการคาดเดา” แทบทุกความเคลื่อนไหว
⦁…ในความเป็นไปของโลก ทุกชาติวิตกวิจารณ์กันมากมายถึงการขึ้นสู่เก้าอี้ “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งสัญญาณเข้มข้นในทาง “เปลี่ยนแปลงบทบาทในความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับประเทศทั่วโลก” หนักแน่นในระดับที่ยืนยันเปลี่ยน “ความเชื่อ” จาก “การค้าเสรี” มาอีกขั้วที่ใกล้กับ “กีดกันทางการค้า” จากประเทศที่เปิดรับชาติอื่น เพื่อแสดงความเป็นพี่ใหญ่ กลายเป็น “อเมริกาที่ไม่อยากจะให้ใครมาพึ่งพา” ไม่แม้กระทั่งดูแลเรื่อง “สิทธิมนุษยชนให้กับโลก” เหมือนที่ผ่านมา
⦁…ด้วยท่าทีเช่นนี้ อาจจะเพราะ “คนอเมริกาที่เลือกทรัมป์” เบื่อหน่ายและสิ้นหวังกับการแก้ปัญหา “การก่อการร้าย” จึงเลือกที่จะทำให้ภาพลดดีกรี “ทุนนิยมเสรี” ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการต่อต้าน โดยที่ “สหรัฐ” เป็นจำเลยลง ทว่าด้วยทิศทางนี้ได้ส่งผลสะเทือนไปทั่ว ด้วยที่ผ่านมาโลกทั้งโลก เคลื่อนอยู่ในพัฒนาการของกลไกการค้าเสรี หาก “หัวขบวน” อย่าง “อเมริกา” หันหัวกลับ ความโกลาหลหนีไม่พ้นจะต้องเกิดขึ้น แม้จะมีความเชื่อว่า “ทรัมป์” คงได้แต่พูดไป แต่ถึงเวลาไม่น่าจะปฏิบัติได้จริง ทว่า “ความสับสน” ได้เกิดขึ้นแล้วในทิศทางของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
⦁…ที่มีการประเมินกันว่า “ไทยเราจะสับสนหนักกว่าประเทศอื่น” ฟังมาว่าเป็นการประเมินจาก “ข้อมูลที่ขาดความแน่นอนไปเสียทุกด้าน” เริ่มจาก “การเมือง” ที่เริ่มต้นกันไว้ช่วงรัฐประหารใหม่ๆ ว่าจะ “เลือกตั้งกันในปี 2559” เสียด้วยซ้ำ แต่เพราะ “ร่างรัฐธรรมนูญ” ฉบับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ถูกสอยร่วง ให้ มีชัย ฤชุพันธุ์ มานั่งหัวโต๊ะร่างใหม่ กำหนด “โรดแมป” บอกกล่าวไปทั่วโลกว่า “จะเลือกตั้งปลายปี 2560” ถึงวันนี้ฟังว่ามีข้อสรุปใหม่ให้เลื่อนยาวออกไป อย่างน้อย “กลางปี 2561” ซึ่งไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเลื่อนต่ออีกหรือไม่ “ความไม่แน่นอน” ก่อ “ความสับสน”
⦁…เช่นเดียวกับ “เศรษฐกิจ” ที่ “ทีมงานคณะรัฐมนตรี” ย้ำแล้วย้ำอีกในทุกเวทีว่า “ปีนี้น่าจะมีปัจจัยส่งเสริมให้ดีขึ้น” แต่ตรวจสอบจากทุกสื่อที่ไปรวบรวมความคิดของ “ภาคเอกชน” มา ล้วนแล้วแต่บอกกล่าวกันถึง “เรื่องราวที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง” ส่งผลอย่างแรงต่อการตัดสินใจลงทุน ซึ่ง “ภาคเอกชน” เป็นตัวจริงของจริงที่จะสร้างความเชื่อมั่น
⦁…ที่น่าสนใจคือ “ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจ” ที่ก่อความไม่แน่ใจนี้ เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้คลี่คลายให้เกิด “เสรีภาพทางการเมือง” ให้มากขึ้น ทว่าความรู้สึกของคนทั่วไปยังเคลิบเคลิ้มอยู่กับ “ภาวะรักษาความสงบ” เป็นเรื่องราวย้อนแย้งที่กำลังเคลื่อนสู่การได้ข้อสรุป ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นจาก “ปัจจัยต่างๆ กดดันให้เป็นไป” ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือคณะใดคณะหนึ่งจะชี้นิ้วเอาได้
⦁…เรื่องราวเหล่านี้ สะท้อนว่า “2560” มีแนวโน้มจะเป็นปีโกลาหล บ้านเมืองในอารมณ์ “รักษาความสงบ” จะยังเป็นความรู้สึกหนักต่อไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเรื่องปากท้อง และจุดเปลี่ยนจะอยู่ที่ “นักการเมืองฝ่ายไหน” จะมีสัมผัสพิเศษถึง “ความเดือดร้อนที่สุกงอมได้ก่อน” ใครที่ “ชิงนำ” ได้ก่อนจะเป็นผู้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง
ชโลทร