เปิดสเปก LEXUS LM 7.5 ล้าน ลักซัวรีแวน คันที่ ‘เศรษฐา’ ซื้อเป็นรถประจำตำแหน่ง ‘นายกรัฐมนตรี’
ทุกย่างก้าวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย อยู่ท่ามกลางการจับตามองของคนทั้งประเทศ แทบจะทุกอิริยาบถ ไม่เว้นแม้แต่ท่วงท่าการโยนปากกา
ฉะนั้น รถประจำตำแหน่ง ที่เป็นพาหนะที่ผู้นำประเทศจะใช้ในการเดินทางก็นับเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ซึ่งมีการรายงานข่าวว่า นายเศรษฐา เลือกที่จะควักเงินส่วนตัวซื้อรถใหม่ป้ายแดง คือ Lexus LM 350h สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ก 6506 (อ่านข่าว : ใหม่เอี่ยม! ‘เศรษฐา’ นั่งเลกซัสป้ายแดง ที่ควักเงินซื้อเอง กว่า 7 ล้าน เข้าทำเนียบ)
มติชนออนไลน์ พาไปรู้จักคุณสมบัติ “ยนตรกรรม” สุดหรูหราระดับเฟิร์สคลาส ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ดังนี้
Lexus LM 350h เป็นยนตกรรมไฟฟ้า ในกลุ่มรถมินิแวน ระดับหรู รุ่นล่าสุดของเลกซัส โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” ด้วยการพัฒนารถรุ่นนี้ขับเน้นความคล่องแคล่ว หรูหรา และสง่างาม สร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ มีให้เลือก 2 รูปแบบ คือรุ่น 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
ซึ่งรถยนตร์ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา เป็นแบบ 4 ที่นั่ง สีภายนอก สีดำ Graphite Glass Flake วัสดุตกแต่งลายไม้ ลายไม้ตกแต่งบริเวณแผงประตูลาย Yabane และลายไม้ตกแต่งบริเวณพวงมาลัยลาย Bengala
โดย Lexus LM 350h Executive 4 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 7,590,000 บาท
สำหรับ รายละเอียด ของรถรุ่นนี้ ประกอบด้วย
1. Sophisticated Exterior การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด ออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก และโดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ เสริมรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง
2. Grand Interior ห้องโดยสารภายในที่หรูหราและประณีต ด้วยการออกแบบที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่งรวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อม ผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน
3. First Class Cabin Lounge ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส ตอนหลังออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ด้วยแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ รองรับทุกความต้องการ เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน/เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด
4. Personalized Customization ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”
5. Comfort and Confidence สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด
6. World-Class Safety ความปลอดภัยขั้นสูงกับระบบ “Lexus Safety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง
7. Ultimate Omotenashi ประสบการณ์ “Omotenashi” สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge” จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original