ศูนย์ทนายฯ เปิดไทม์ไลน์ยื่นประกัน ‘วารุณี’ 7 ครั้ง ศาลยกทุกคำร้อง
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยข้อมูลผลการยื่นประกันตัว ‘น้ำ วารุณี’ หญิงชาวพิษณุโลก วัย 32 ปี ผู้ต้องขังจากคดี ม.112 ซึ่งอดอาหารมานานกว่า 2 สัปดาห์ ขณะนี้อยู่ในการดูแลของทัณฑสถาน ราชทัณฑ์
ศูนย์ทนายฯ เปิดเผยว่า น้ำ วารุณี ถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาเกือบ 2 เดือนก่อนการตัดสินใจอดอาหาร ทนายความยื่นขอประกันตัวหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล
รายละเอียด ดังนี้
ทนายความได้เคยยื่นขอประกันเธอต่อศาลแล้ว รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง แบ่งเป็นการยื่นคำร้องประกันต่อ ‘ศาลอาญา’ เป็นจำนวน 4 ครั้ง ซึ่งศาลอาญาได้ส่งต่อให้ ‘ศาลอุทธรณ์’ สั่งทุกครั้ง ส่วนอีก 1 ครั้งเป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันต่อ ‘ศาลฎีกา’
.
ภายหลัง น้ำ วารุณีทราบว่า ศาลยกคำร้องขอคืนอิสรภาพเป็นครั้งที่ 5 แล้ว จึงได้ตัดสินใจอดอาหารประท้วงมานับตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2566 ก่อนจะยกระดับเป็น ‘การจำกัดการดื่มน้ำ’ ร่วมด้วยตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2566 ตั้งแต่ น้ำ วารุณี ดำเนินการอดอาหารประท้วง มาจนถึงปัจจุบัน ทนายความได้ยื่นประกันตัวเพิ่มอีก 2 ครั้ง แบ่งเป็นการยื่นต่อศาลอาญา 1 ครั้ง และอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาอีก 1 ครั้ง
นั่นหมายความว่า ตลอดระยะเวลาที่ ‘วารุณี’ ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จนถึงปัจจุบัน (5 ก.ย.2566) สรุปรวมการยื่นประกันเพื่อขอคืนอิสรภาพจากศาล รวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง แบ่งเป็นการยื่นประกันต่อศาลอาญา 5 ครั้ง และยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันของศาลอุทธรณ์อีก 2 ครั้ง ซึ่งตลอดทั้ง 7 ครั้งนี้ ศาลสูงล้วนมีคำสั่ง ‘ยกคำร้อง’ หรือ ‘ไม่ให้ประกันตัว’ ทุกครั้ง
ศูนย์ทนายระบุว่า ผลของคำสั่งในแต่ละครั้งมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย เหตุผลสำคัญในคำสั่งไม่ให้ประกัน ได้แก่ จำเลยให้การรับสารภาพ, เกรงว่าจะหลบหนี, ศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่ให้ประกัน และอาการเจ็บป่วยราชทัณฑ์ดูแลได้
ทั้งนี้ น้ำ วารุณี ถูกศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) พิพากษาจำคุก 3 ปี ในคดีตามข้อหามาตรา 112 และเหยียดหยามศาสนาฯ ศาลได้ลดโทษให้เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน เนื่องจากให้การรับสารภาพ แต่โทษจำคุกไม่ได้รอลงอาญา ทำให้ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง มาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา
ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า แม้ น้ำ วารุณี จะรับสารภาพ แต่คดีความไม่ถึงที่สุด โดยได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลไปแล้ว การได้รับการประกันตัว จึงยังเป็นสิทธิสำคัญในระหว่างรอคอยให้ศาลระดับที่สูงขึ้นไปทบทวนคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
