09.00 INDEX คดีความ อิทธิพล คุณปลื้ม ฉายภาพ ระบอบ ‘ประยุทธ์’
กรณีของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ส่งแรงสะเทือนอันทรง “ความหมาย” ยิ่ง ไม่ว่าในทาง “ความคิด” ไม่ว่าในทาง “การเมือง”
เกิดขึ้น ดำรงอยู่ ในสถานะอันเป็นเหมือน “สินค้าตัวอย่าง”
ในช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่งคสช.ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทน กับ ยุคแห่งพรรคเพื่อไทยซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นตัวแทน
แม้ความชื่นมื่นในการดึงพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมใน “รัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลประชาชน” จะสะท้อนรูปธรรมแห่ง “การก้าวข้ามความขัดแย้ง”
แต่พลันที่เกิดกรณี นายอิทธิพล คุณปลื้ม ขึ้น ภาพอันเคยเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งในห้วงระหว่างหลังเดือนพฤษภาคม 2557 กับก่อนเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 ก็หวนกลับมา
ต้องขอบคุณการตัดสินใจของ ป.ป.ช. ต้องขอบคุณการดำเนินการของ สำนักอัยการสูงสุด ต้องขอบคุณ “หมายจับ” อันออกมาจากศาลอาญา
เพราะหากไม่มีการเคลื่อนไหวของป.ป.ช. ไม่มีการเคลื่อนไหวของอัยการ ก็คงทำให้ภาพจำเลือนลางจางไป
ตรงกันข้าม กลับทำให้ “ระบอบประยุทธ์” มีความชัดเจน
การดำรงอยู่ของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงการปรองดอง สมานฉันท์ ในลักษณะแห่ง “ก้าวข้าม” ความขัดแย้งในยุคแห่งคสช.
หากแต่ยังฉายให้เห็นถึง “กระบวนท่า” ในการ “อยู่เป็น” ของแต่ละกลุ่มทางการเมืองอย่างไม่ปิดบังอำพราง
“กระบวนท่า” ในลักษณะนี้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ก็นำมาใช้ “กระบวนท่า” ในลักษณะนี้ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ก็นำมาใช้
ที่พิเศษยิ่งกว่านั้นกล่าวสำหรับกรณีของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นอกจากจะสามารถดำรงตำแหน่งเป็น “รัฐมนตรี” หากแต่ภายในเครือข่ายยังรับตำแหน่งเป็น “ที่ปรึกษา”
ไม่เพียงเป็นที่ต้องการสำหรับพรรคพลังประชารัฐ หากแม้กระทั่งพรรครวมไทยสร้างชาติก็มิได้ปฏิเสธ
ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่การดำรงอยู่เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นในห้วงแห่งการดำรงตำแหน่งเป็น ”นายกเมืองพัทยา” ประการเดียว หากแต่จังหวะก้าวแห่งการดำเนินคดีก็น่าศึกษา
น่าศึกษาตรงที่ยืนยันในความล่าช้าจากปี 2551-2566
ในอีกด้านหนึ่งเมื่อมี “หมายจับ” ขึ้นในห้วงเดียวกันนั้นก็ปรากฎการเคลื่อนไหวของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ด้วยการเดิน ทางออกนอกประเทศ
เป็นการเดินทางออกนอกประเทศขณะที่กำหนดเวลาที่คดีจะ “หมดอายุความ” คือ วันที่ 10 กันยายน 2566
