เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 มกราคม 2559 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช.ได้เดินทางมาที่กรมราชทัณฑ์ ถ.นนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีบรรดาสื่อมวลชนจากหลายสำนักเฝ้ารอทำข่าวที่ภายในห้องประชุม 210 ชั้น 2 ของตึกกรมราชทัณฑ์ โดยเข้าพบ นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าถึงกรณีเรื่องการรักษาอาการป่วยของนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือนปช.หลังมีรายงานของทางแพทย์จากทางกรมราชทัณฑ์ที่รักษา พบว่ามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมกับอาการกรวยไตอักเสบด้วย ซึ่งยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของทางคณะแพทย์ที่รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
นายกอบเกียรติ เปิดเผยว่า ขั้นตอนก็จะมีถ้าเจ็บป่วยเล็กน้อยก็จะให้ผู้ถูกควบคุมรักษาตัวภายในสถานพยาบาลของทางราชทัณฑ์ หากการเจ็บป่วยเกินขีดความสามารถของทางแพทย์กรมราชทัณฑ์ อาทิ ต้องใช้หมอเฉพาะทางหรือเครื่องไม่เครื่องมือเราไม่พอ ก็จะทำการประสานโรงพยาบาลจากภายนอกที่มีความสามารถรักษาอาการได้ ในส่วนของคุณณัฐวุฒิ เดินทางมาสอบถามอาการของคุณจตุพรนั้น ทางเราก็ได้ให้ข้อมูลไปว่าได้ดำเนินการให้ยา จะครบคอร์สในวันที่ 6 พรุ่งนี้ ให้ความมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลให้ดีที่สุด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งถ้ามีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นเราก็จะส่งไปที่สถานพยาบาลที่เรามีอยู่ในทุกเรือนจำอยู่แล้ว และมีหมอกับนักพยาบาลวิชาชีพประจำอยู่แล้ว และบางช่วงจะมีแพทย์เฉพาะทางจากภายนอกเข้ามาตรวจร่วมด้วย หากมีเคสอาการหนักก็จะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ที่จะส่งตัวไปรักษาอาการต่อยังสถานพยาบาลภายนอกได้
“ในกรณีของคุณจตุพร พรหมพันธ์ นั้นก็มีพยาบาลเป็นคนตรวจ ถ้าดูแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็จะส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลของทางกรมราชทัณฑ์อีกที หากทางเเพทย์วินิจฉัยอาการแล้วต้องการเครื่องมือหรือแพทย์เฉพาะทางก็จะส่งต่อออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกได้ และอาการล่าสุดที่ได้รับรายงานมาทราบว่าอาการของคุณจตุพร พรหมพันธ์ ดีขึ้นแล้วโดยทางหมอยืนยันว่าไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว เดินเหินได้ พูดจาดี นอนหลับ ปลอดภัยอาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว” นายกอบเกียรติ กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยใบหน้าค่อนข้างเครียดว่า วันนี้ตนตั้งใจเดินทางมาที่กรมราชทัณฑ์นี้ไม่ได้มาเพื่อจะสร้างสถานการณ์ว่าคุณจตุพร พรหมพันธ์นั้น จะเป็นผู้ต้องขังคนพิเศษหรือต้องการเรียกร้องอภิสิทธิ์ใดๆที่พิเศษจากทางศูนย์ราชการ เป็นแต่เพียงว่าผมมาในฐานะพี่น้อง ที่กอดคอต่อสู้ด้วยกันมา ซึ่งเห็นข่าวเห็นภาพอาการเจ็บป่วยแล้ว จึงอยากจะมาสอบถามทำความเข้าใจกับทางส่วนราชการที่ดูแลรับผิดชอบอยู่ และผมก็ได้รับการยืนยันจากทางท่านอธิบดี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าอาการป่วยของคุณจตุพร พรหมพันธ์ ที่เริ่มต้นมาจากอาการกรวยไตอักเสบนั้น ใกล้ทุเลาจะหายดีแล้วแต่ยังคงต้องให้ยาปฎิชีวะนะทางเส้นเลือดอยู่ 1-2 วัน ส่วนอาการอื่นๆขณะนี้ ยังไม่ปรากฎพบ อย่างไรก็ตามได้ขอความกรุณาต่อกรมราชทัณฑ์ว่า ให้ดูแลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบเห็นสภาพอาการใดๆที่ผิดปกติ หรือมีอาการกำเริบแทรกซ้อนขึ้น ก็ขอความกรุณาให้ช่วยรักษาติดตามอาการอย่างเร่งด่วนให้ด้วยอย่างทันท่วงที จริงๆทางเราก็อยากได้สิทธิ์ให้คุณจตุพร ได้ออกไปรักษาอาการจากโรงพยาบาลภายนอก แต่หากส่วนราชการยืนยันตามลำดับและมีหลักเกณท์ ขั้นตอน ที่ปฏิบัติอยู่ของทางกรมราชทัณฑ์ จึงไม่สามารถทำตามที่เราต้องการอยากให้ปฎิบัติได้ จึงขอฝากคุณจตุพร หรหมพันธ์ ไว้ในความดูแลรับผิดชอบของทางกรมราชทัณฑ์และความรับผิดชอบรัฐบาลด้วย
“วันนี้เราทราบดีว่าทางพี่น้องผมเป็นผู้ต้องขังคนหนึ่ง และอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ไปกว่าสถาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็อยากจะให้ทางกรมราชทัณฑ์และทางรัฐบาล เข้าใจด้วยว่าคดีความที่คุณจตุพร พรหมพันธ์ ต้องคดีอยู่และถูกจองจำเป็นคดีที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นความผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นจากสถานะการความขัดแย้งทางการเมือง และคดียังไม่ถึงที่สุดและอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา โดยหลักการซึ่งถือว่าคุณจตุพร พรหมพันธ์ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ดังนั้นสิทธิ์ใดๆที่ผู้ต้องขังพึ่งมี ก็ขอให้คุณจตุพร นั้นมีด้วยหรือว่าความดูแลใดๆถ้าจะกรุณาได้ ในฐานะที่คุณจตุพร เคยเป็นอดีตส.ส.และไม่ต้องการให้ลิดรอนสิทธิ์ของผู้ต้องหาอื่นแต่อย่างใด และผมกับคุณจตุพร ก็เคยอยู่ภายในนั้น ก็เข้าใจว่าผู้ที่อยู่ในนั้นก็ถูกกำจัดสิทธิ์มากมายในชีวิตอยู่แล้ว และเราก็ไม่ต้องการอะไรที่เหนือกว่าแต่เราต้องการอะไรที่ชัดเจนตรงไปตรงมาและให้ความยืนยันมั่นใจว่า สิ่งที่ได้สื่อสารกันผ่านสื่อสาธารณะ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและชัดเจน” นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า พวกผมไม่ได้ต้องการสร้างประเด็นทางการเมืองใดๆในสถานการณ์นี้ แต่มาด้วยความห่วงใยพี่น้องที่เคยกอดคอต่อสู้กันมาด้วยกันเท่านั้น ในส่วนพี่น้องประชาชนที่ห่วงใยก็ขอขอบคุณมานะที่นี้ และผมจะประสานงานกับทางกรมราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ เป็นการครบกำหนดการให้ยาพอดี และขอการภายในว่าถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้สื่อสารกันให้ชัดเจน เพียงเท่านั้นก็จะได้เรียนให้พี่น้องประชาชนทราบของสถานะการเพื่อให้หายความกังวลลงได้ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้ใช้สิทธิ์การเข้าเยี่ยมคุณจตุพร ตามปกติในเวลา 11.00น.ของวันเวลาราชการและในวันนี้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพก็มีการเข้าเยี่ยมกันตามปกติอยู่
