ปชป. ชี้นโยบาย รบ.เศรษฐา อ่อนกว่าสมัย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ แนะแจงชัดในสภา 4 เรื่องสำคัญ
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 11-12 กันยายนนี้ว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลคือสัญญาประชาคม เข็มทิศในการทำงานตลอด 4 ปี นับจากนี้ไป โดยมีพื้นฐานมาจากนโยบายสาธารณะที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเคยนำเสนอนโยบายมาหาเสียง เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นการแถลงนโยบายของรัฐบาล จึงควรทำให้ประชาชนเห็นเป้าหมาย และแผนปฏิบัติการเบื้องต้นที่พอจะทำให้ประชาชนคาดหวังได้ว่ารัฐบาลจะทำนโยบายให้สำเร็จได้แบบไหนอย่างไร
นายองอาจกล่าวอีกว่า แต่เมื่อพิจารณาร่างคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่จะนำเสนอสมาชิกรัฐสภาในที่ประชุมสภาแล้วเห็นว่ารัฐบาลเพื่อไทยชุดนี้ ซึ่งมีที่มาจากพรรคไทยรักไทย มีมาตรฐานการทำนโยบายอ่อนกว่าเดิม อ่อนกว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในสมัยนายทักษิณ หลายนโยบายมีความชัดเจน เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค แม้แต่ในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็พูดชัดว่า ในหนึ่งปีจะมีนโยบายอะไรที่ทำบ้าง แต่นโยบายของรัฐบาลนี้จะแบ่งเป็นนโยบายระยะสั้น นโยบายระยะยาว ไม่รู้ว่าสั้นยาวกี่ปีกี่เดือนกี่วัน
นายองอาจกล่าวว่า นายกฯจึงควรชี้แจงในสภาเพื่อความชัดเจนก่อนที่จะนำนโยบายไปปฏิบัติดังนี้ 1.นโยบายส่วนมากยังขาดเป้าหมาย และไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่พอจะทำให้เห็นความสำเร็จของนโยบาย 2.ไม่มีนโยบายที่เคยประกาศหาเสียงไว้หลายเรื่อง บางเรื่องก็คลุมเครือจนไม่เห็นทิศทางที่แน่ชัดว่าจะทำอย่างไร 3.นโยบายหลายเรื่องตอนหาเสียงบอกว่าจะลงมือทำทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล แต่ไม่มีปรากฏในนโยบายว่าจะทำทันที และ 4.รายละเอียดของแผนปฏิบัติการที่พอทำให้มั่นใจได้ว่าจะนำนโยบายไปทำให้เกิดผลได้ ไม่ใช่ปล่อยให้รัฐมนตรีชี้แจงจนสับสนอลหม่านก่อให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะทำได้
นายองอาจกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรใช้โอกาสของการแถลงนโยบายนี้ชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่ประชาชนคาดหวังต้องการต่อไป