อดิศร หวังแถลงนโยบายราบรื่น ชี้ฝ่ายค้านจัดขุนพลถล่ม แค่สีสันข่มขวัญการเมือง มอง รบ.ยังไม่เริ่มงาน อย่าไปไกลจนเกินกรุงลงกา
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความพร้อมของฝ่ายรัฐบาลในการรับมือฝ่ายค้านที่เตรียมประเด็นอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 11-12 กันยายนว่า คิดว่าเรื่องนี้วิป 3 ฝ่าย นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ประชุมกันแล้วราบรื่น มีการแบ่งสันปันส่วนเวลากันลงตัว เป็นการประชุมที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ อีกทั้งฝ่ายค้านรับปากว่าจะอภิปรายอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ เพราะคราวนี้เป็นแถลงนโยบาย ไม่ใช่ซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่ารัฐบาลไม่ได้หนักใจอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมขุนพลมาชำแหละแต่ละนโยบายที่รัฐบาลเตรียมมา นายอดิศรกล่าวว่า ตามสบาย ก็อ้างว่าเป็นขุนพลข่มขวัญบ้างอะไรบ้าง ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องสีสันของการเมือง
“ฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นกระจกเงา ตรวจสอบ แนะนำ เพราะว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังปฏิบัติงานไม่ได้แม้แต่วันเดียว ยังไม่ได้ทำอะไร อย่าไปไกลจนเกินกรุงลงกา เนื้อหาของนโยบาย ผมว่าไม่น่าจะหนักใจอะไรทั้งสองฝ่าย ไม่น่าจะหนักใจอะไร จะให้ราบเรียบมันไม่สนุกหรอก ต้องมีการพูดวาจาโอหังไป จะทำโน่นจะทำนี่ ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสีสัน ไม่มีอะไร เพราะว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรแม้แต่วันเดียวเลย” นายอดิสรกล่าว
เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายรัฐบาลมีการตั้งคนขึ้นมาเป็นองครักษ์คอยช่วยหรือไม่ นายอดิสรกล่าวว่า ไม่มีองครักษ์ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีองครักษ์ ใครจะเป็นองค์รักษ์ท่านนายกฯได้ ท่านนายกฯสูงถึง 192 ซม. ไม่ต้องหรอก เพราะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีสามารถตอบคำถามทุกคำถามที่ฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายค้านประสงค์อยากจะรู้ได้ทุกคำถามอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ไม่น่าจะมีองครักษ์อะไร เว้นแต่ทำผิดข้อบังคับกัน ซึ่งก็โตกันแล้วคงไม่ผิดข้อบังคับหรอก ถ้าไม่มีก็ไม่มีการประท้วง อยากให้เป็นการอภิปรายที่สง่างาม ประชาชนทั่วประเทศเขาจะได้ฝากความหวังไว้ในระบบรัฐสภาเรา
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ เพราะประเด็นที่ฝ่ายค้านนำมานั้นมุ่งเน้นไปในทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง นายอดิศรกล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่กังวลแทนฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านเท่าที่รู้ผิดหวังมาซ้ำซากแล้ว ไม่รู้ผิดหวังอะไรมาบ้าง อารมณ์อาจจะตกค้างฟุ้งซ่านบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เราถือเป็นกฎอนิจจัง ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า การอภิปรายจะส่งผลกระทบกับทั้งสองฝ่ายหรือไม่นั้น นายอดิศรกล่าวว่า ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว พูดเป็นชาติๆ ร้อยวัน ไม่มีทางตรงกันอยู่แล้ว มองกันคนละมุมอยู่แล้ว
“อย่าขู่มาก เอาตัวให้รอดก็แล้วกัน เอาเฉพาะหาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้ผมหน่อย ถามจริง เขาไม่สนใจผู้นำฝ่ายค้านเหรอ ผู้นำฝ่ายค้านต้องมานำการอภิปราย แต่วันนี้ฝ่ายค้านไม่มีผู้นำฝ่ายค้านเลย จะอธิบายต่อประชาชนอย่างไร จะทำอย่างนู้นทำอย่างนี้รัฐบาลแต่ตัวเองไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน มันน่าอายเขาไหม หาผู้นำฝ่ายค้านให้ผมหน่อยจะได้รับมือกันถูกคน” นายอดิศรกล่าว
