ชัยธวัช ลุกอัดรบ.เศรษฐา เหมือนเขตทหารห้ามเข้า ถามเกรงใจบิ๊กตู่หรือ? ไม่พูดถึงรปห.ซักคำ

‘ชัยธวัช’ อัด ครม. ‘เศรษฐา 1’ เหมือนเขตทหารห้ามเข้า แม้เป็นพลเรือนคุมหัวโต๊ะ จวก ไม่พูดถึงรัฐประหารเหมือนเกรงใจ ‘บิ๊กตู่’ เหน็บเหมือนตั้ง ‘สุทิน’ เป็นแค่โฆษกกองทัพ

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สอง โดยเมื่อเวลา 18.50 น. นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายถึงนโยบายพัฒนากองทัพว่า เป็นเรื่องน่ายินดี เรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนแรกที่เป็นพลเรือน และไม่ใช่นายกรัฐมนตรี เรากำลังเข้าสู่ยุคสมัยที่พลเรือนกำลังจะอยู่เหนือกองทัพใช่หรือไม่ หรือเอาเข้าจริงแล้วการส่งพลเรือนมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมครั้งนี้ จะกลับกลายเป็นการส่งสัญญาณของจากรัฐบาลใหม่ว่า รัฐบาลพลเรือนชุดนี้จะไม่ยุ่ง ไม่แตะกองทัพ นโยบายการทหาร ความมั่นคง จะคงอยู่ในมือกองทัพรวมถึงเครือข่ายคณะรัฐประหารต่อไป พรรคแกนนำรัฐบาลมีนโยบายปฏิรูปกองทัพเป็นทหารอาชีพ ปรากฏว่าพอตอนแถลงนโยบายรัฐบาล ความมุ่งมั่นชัดเจนของแกนนำรัฐบาลหายไปไหน จากปฏิรูปกองทัพเพื่อป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงทางการเมืองและการบริหารราชการ

“เปลี่ยนเป็นร่วมกันพัฒนากองทัพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ดูน่ารักนะครับ จากบอกว่าจะเสนอกฎหมายป้องกันและต่อต้านการรัฐประหาร หายไปเลย ไม่แม้แต่จะพูดถึงคำว่ารัฐประหารสักคำในการแถลงนโยบายของรัฐบาลพลเรือนครั้งแรกหลังการรัฐประหาร 2557 ทำไมหรือครับ คำว่ารัฐประหารนี่มันน่าแสลงใจมาก จนพูดถึงกันไม่ได้ หรือนายกฯเศรษฐาและรัฐบาลชุดนี้ เกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐประหารมากขนาดนั้นเลยหรือ” นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า การยกเลิกการเกณฑ์ทหารก็คลุมเครือ เพราะการเลิกกับการลดการเกณฑ์ทหารมันต่างกัน ถ้านโยบายของรัฐบาลคือลดการเกณฑ์ทหารเท่านั้นมันจะมีอะไรใหม่ เพราะหลายปีมานี้กองทัพก็ดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม สภากลาโหมก็ประกาศแผนการปฏิรูปเนื้อหาสาระเดียวกัน แถม พล.อ.ประยุทธ์ยังย้ำในที่ประชุมครั้งนั้นด้วยว่า นี่คือแผนของเราที่ทำอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวว่าใครจะมาหรือไป นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ยินไหม พล.อ.ประยุทธ์มีแผนปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว คนอื่นไม่เกี่ยว แบบนี้รัฐบาลใหม่จะให้นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปนั่งเป็นแค่โฆษกกองทัพหรือ นี่ยังไม่รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะปล่อยให้มีไอโอกองทัพอีกหรือไม่

Advertisement

นายชัยธวัชกล่าวว่า เมื่อฟังคำแถลงอยากสรุปสั้นๆ ว่านี่มันไม่ใช่นโยบายการพัฒนากองทัพร่วมกัน หรือไม่แม้แต่จะใช่เรื่องการปฏิรูปกองทัพ แต่นี่คือนโยบายเขตทหารห้ามเข้า นโยบายเกี่ยวกับกองทัพของรัฐบาลชุดนี้ ได้ส่งสัญญาณว่าการปฏิรูปโดยรัฐบาลพลเรือนจะไม่เกิดขึ้นนอกจากสิ่งที่กองทัพออกแบบมาและอนุญาตให้ทำ ตนฟังและอ่านคำแถลงหลายรอบ เห็นว่าเราไม่ได้กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนอย่างที่นายกรัฐมนตรีแถลงไว้ แต่เรากำลังเข้าสู่รัฐบาลที่ไม่มีเจตจำนงในความเปลี่ยนแปลง หรือไม่ก็แย่กว่านั้น ชวนให้คิดได้ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว รัฐบาลเศรษฐาหนึ่งได้กลายเป็นส่วนต่อขยายของรัฐบาลประยุทธ์ เพื่อพยายามหยุดยั้งการเปลี่ยนผ่าน เหนี่ยวรั้งสังคมไทยให้อยู่กับระบบการเมืองแบบเดิม โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมแบบเก่า และวัฒนธรรมแบบจารีตต่อไป

นี่คือนโยบายของรัฐบาลที่เต็มไปด้วยความสยบยอม หรือไม่ก็สมยอมกัน เป็นการสามัคคีปรองดองกันระหว่างชนชั้นนำทางการเมือง ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและชนชั้นนำทางจารีตเพื่อรักษาระบบเดิมเอาไว้ นั่นคือระบบที่อำนาจสูงสุดไม่ใช่ของประชาชน ทหารมีอำนาจเหนือสังคม รัฐราชการรวมศูนย์ กฎหมายเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ ความมั่นคงอยู่เหนือพลเรือน ทุนใหญ่มีอำนาจเหนือระบบเศรษฐกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image