ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
รัฐบาลเศรษฐา 1 แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถูกวิจารณ์หนักว่า “ไม่ตรงปก”
ไม่เหมือนตอนหาเสียงรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะกับประชาชนก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.66
มีนโยบายประชานิยมมากมาย พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ ทั้งเวทีดีเบต หรือเวทีปราศรัยตอนหาเสียง
แต่ไม่เห็นมีในถ้อยแถลงและเอกสารรายละเอียด เหมือนที่เคยรับปาก
รัฐบาลเพื่อไทยคงต้องเร่งมือสร้างผลงาน เพื่อให้ประชาชนได้เห็นฝีมือ เหมือนในอดีตเคยโชว์ให้เห็นมาแล้วในรัฐบาลไทยรักไทย
ส่วนใหญ่นโยบายรัฐบาลเศรษฐา 1 ยังคงเน้นภาพรวมคล้ายพรรคไทยรักไทยในอดีต
เน้นเร่งแก้เรื่องปากท้อง เป็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศ กำลังรุมเร้าประชาชนหลายด้าน
แต่ยังมีนโยบายน่าสนใจ ด้านการพัฒนาศักยภาพคน เพื่อพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน
นโยบายที่น่าจับตาอย่างยิ่งคือ นโยบายด้านการศึกษา
รัฐบาลเศรษฐา 1 ระบุในนโยบายไว้ว่า
“จะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษา และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้”
แม้ว่าจะไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน แต่ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญน่าจับตาดู เพราะเป็นการวางรากฐานประเทศอย่างยั่งยืน
เป็นที่ทราบกันดีว่า การอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นรากฐานของการพัฒนาคนได้อย่างชัดเจนและเห็นผลชัดเจนยิ่ง
โดยเฉพาะหากปลูกฝังตั้งแต่เด็ก และสนับสนุนให้การอ่านและการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ไปสู่ประชาชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
ยิ่งมีข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่าเด็กไทยอ่านหนังสือน้อย ก็จำเป็นต้องยิ่งเร่งส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้มากขึ้น
เพราะนั่นหมายถึงอนาคตของชาติจะไปทิศทางไหน
ศ.ดร.อดิศร จันทรสุข คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มีข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลควรมีแนวทางส่งเสริมการอ่านว่า
“ปัจจุบันการอ่าน อาจเป็นวิถีชีวิตคนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย เคยมีสถิติว่าคนไทยอ่านหนังสือน้อย แต่ความจริงแล้วถ้าเราสร้างให้เด็กและเยาวชนเกิดความอยากเรียนรู้ ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าคนส่วนใหญ่อยากเข้าถึงความรู้ ไม่ว่าจะผ่านการอ่าน การดู หรือการฟัง
ดังนั้น การอ่านมีความสำคัญ ควรส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้าใจว่าเนื้อหาความรู้ ทั้งสาระและความบันเทิง มีความจำเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว
แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเท่าไร เพราะให้เวลากับการอ่านวิเคราะห์ข้อมูลน้อย ไม่เห็นคุณค่าการอ่าน เพราะมีข้อมูลตัดตอนสื่อสารรวดเร็ว แต่ความรวดเร็วการใช้ข้อมูลเหล่านี้ มีทั้งข้อดีและเสีย ทักษะการอ่าน จะช่วยเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ได้มาก ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สังคมไทยยังขาด”
ดังนั้น นโยบายส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐบาลเศรษฐา 1 ที่มีเสียงสนับสนุนจากบรรดาภาคธุรกิจมากมาย
จะเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ได้แค่ไหน
และมีมุขอะไรใหม่ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา