บทนำมติชน : เติมเต็มนโยบาย
การแถลงนโยบายของรัฐบาลผ่านพ้นไป นับแต่นี้คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามนโยบายที่แถลง ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน สมาชิกรัฐสภาสลับกันแสดงความคิดเห็น และเปิดโอกาสให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจง ซึ่งความคิดเห็นต่างๆ ถือเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลในการนำไปเติมเต็มนโยบายให้คมชัดขึ้น ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่า เป้าหมายของนโยบายดังกล่าวคืออะไร รัฐบาลจะเดินไปเส้นทางไหน เหมือนหรือต่างกับผู้ร่วมทางตอนหาเสียงหรือไม่ จะไปถึงเป้าหมายเมื่อไหร่
ขณะนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นว่า นโยบายรัฐบาลยังคลุมเครือ ขาดความชัดเจน และเป็นนโยบายไม่ตรงปก เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่ได้ระบุตัวชี้วัดเหมือนกับที่ระบุไว้ในตอนหาเสียงเลือกตั้ง อาทิ นโยบายเงินเดือนผู้ทำงานที่จบปริญญาตรี ค่าแรงขั้นต่ำ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น รวมทั้งยังให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีไม่มีนโยบายประกัน
รายได้เกษตรกร ตลอดจนนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทที่ข้องใจในแหล่งที่มาของเงิน
นอกจาก น.ส.ศิริกัญญาและนายจุรินทร์แล้ว ยังมีสมาชิกรัฐสภาอีกหลายคนลุกขึ้นอภิปราย หลายคนอภิปรายด้วยข้อมูลที่น่าฟัง บางคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล บางคนเต็มไปด้วยคำถามเพราะยังไม่เชื่อมั่น ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลนับตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงรัฐมนตรีใหม่ที่ร่วมคณะ ได้พยายามชี้แจงนโยบายที่ร่างให้รัฐสภาเข้าใจ ซึ่งการสอบถาม แสดงความคิดเห็น และการชี้แจง มีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อมวลชนไปให้ประชาชนรับฟังด้วย
หลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถนำไปปรับแก้ได้ทันที เช่นการกำหนดเป้าหมาย วิธีการดำเนินการ และระยะเวลาดำเนินการในนโยบายสำคัญๆ ที่รัฐบาลต้องการให้เกิดขึ้นในช่วงต้นของการบริหารงานของรัฐบาล รวมไปถึงนโยบายที่ต้องทำให้เกิดขึ้นภายใน 4 ปีตามวาระการดำรงตำแหน่งของรัฐบาลด้วย จึงถือได้ว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกรัฐสภาที่ได้ท้วงติง แนะนำเสริมเติมนโยบายให้สมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลที่สามารถนำเอาข้อมูลและความเห็นไปใช้ในการบริหาร ซึ่งในที่สุดแล้ว กลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นประชาชน ดังนั้น รัฐบาลควรนำข้อมูลและข้อเสนอแนะไปพิจารณาเพื่อเติมนโยบายให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในที่สุด
