รอง หน.เป็นธรรม ส่งกำลังใจ รบ.ทำงาน ขอรอพิสูจน์คำสัญญาที่แถลง ทำจริงหรือแค่วาทกรรม
เมื่อวันที่ 13 กันยายน พิศุทธิ์ จำเริญรวย รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะกรรมการวิสัยทัศน์ พรรคเป็นธรรม ได้โพสต์แสดงความคิดเห็น หลังจบการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยระบุว่า ผมคิด “การแถลงนโยบาย” ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ดูคล้ายๆ “พิธีกรรม” เหมือนที่เคยปฏิบัติกันมา โดยมีการนำคำว่า “ประชาชน” มาอ้างอิงมากมาย แต่แทบไม่มีสิ่งที่ “ประชาชน” จะเห็นได้ จับต้องได้ อย่างเป็นรูปธรรม มากนักในเนื้อหานโยบาย
นโยบายถูกเขียนแบบกว้างๆ ด้วยภาษาศาสตร์ เชิงวิชาการ ให้ “นักการเมือง” อ่าน เพื่อให้ดูหล่อ ดูดี ดูน่าเชื่อถือ แต่จะไม่มีรายละเอียดให้ “ประชาชน สื่อมวลชน” ได้พิสูจน์ หรือจับต้องได้ ทั้งวิธีการ เงื่อนเวลา และผลลัพธ์ เพราะ “คนเขียนไม่ใช่คนทำ” นั่นหมายความว่า จะไม่มี “มาตรวัด” ที่เป็นรูปธรรม ที่จะส่งผลประโยชน์โดยตรง ให้กับ “นายของรัฐบาล” ซึ่งหมายถึง คำว่า “ประชาชน” ที่ถูกอ้างอิงมากมาย ในเอกสารนโยบายรัฐบาล
นโยบายที่เขียนขึ้นมา มักเป็นการเขียนเปิดโอกาส ให้มีการเติมคำในช่องว่าง หรือต่อตัว ต่อหัว ต่อหาง ในทางปฏิบัติ โดยผู้บริหาร แต่ละกระทรวงที่รับผิดชอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็น “ผลบวกหรือผลลบ” กับประเทศและประชาชน ได้ทั้งสองทาง
ถ้าความคิด จิตใจและพฤติกรรม ของ “นักการเมือง” เป็นไปโดยสุจริต จริงใจ มีสามัญสำนึก และความรับผิดชอบสูงกว่าปกติ ก็จะเป็นสิ่งประเสริฐ พึงประสงค์ ของ “ประชาชน เจ้าของเสียง” แต่ถ้า “นักการเมือง” คิด “กินเมือง กินประเทศ” นำนโยบายไปปรับแปลง ให้เกิดประโยชน์เฉพาะตน และพวกพ้อง ในลักษณะฉ้อฉล กลโกง ประพฤติมิชอบ “ทุจริตเชิงนโยบาย” เหมือนที่ผ่านมา บางครั้ง ก็จะทำให้เกิด “ต้นทุนแฝง” สูงท่วมหัวประชาชน และเกิด “หนีัสิน” สูงท่วมตัวประเทศ ทะลุถึงลูกหลานในอนาคตต่อไป
นโยบายต่างๆ ที่มาจากคนคนหนึ่ง “เขียน” คนคนหนึ่ง “อ่าน” และคนหลายคน “ทำ” โดย “คนเขียน คนอ่าน คนทำ” ไม่มีความเข้าใจ จริงจัง จริงใจ ตั้งใจ ในการนำไปปฏิบัติ ก็จะทำให้การแถลงนโยบายนั้น ไม่ต่างไปจากการอ่านเอกสาร เพียงเพื่อให้จบไปวันๆ หรือ “การเล่านิทานก่อนนอน” เพียงเพื่อ กล่อมเด็กไปคืนๆ โดยที่ “คนทำ หรือ ผู้บริหาร” ก็จะไม่ได้ใส่ใจอย่างจริงจังเลย เพราะไม่ได้เป็นทั้ง “คนเขียนและคนอ่าน”
โดยสรุปคือ คนเขียน เขียนให้ “สวย” คนอ่าน อ่านให้ “หล่อ” คนทำ ทำให้ “เละ”
“นโยบายที่ดี” ต้องสามารถแปลงเป็นแผนปฏิบัติการ ที่มีเป้าหมาย ผลงาน ผลสัมฤทธิ์ ระยะเวลา และการประเมินผลที่เป็นรูปธรรม เห็นผลลัพธ์ จับต้องได้ รวมทั้งรัฐบาลต้องเปิด “โอกาส” ให้ “ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย” ได้มีส่วนร่วมและมีสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออก ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี สุจริตและมีธรรมาภิบาล
“นักวิชาการ” ที่ไม่ใช่นักบริหาร ก็เน้น “ภาษาสวย” “นักการเมือง” ที่ไม่จริงใจ ก็เน้นให้ “คำมั่นสัญญา”
เหตุการณ์ช่วงจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นที่ประจักษ์ ไปแล้ว ว่า… “คำสัญญาเมื่อวาน” โดย “นักการเมือง” ก่อนการเลือกตั้ง ได้จางหายไปแล้ว โดยเทคนิค… “คำสัญญาวันนี้” โดย “รัฐบาล” ในการแถลงนโยบาย จะเป็นเพียงลมปาก คำหวาน วาทกรรมทางเทคนิค อีกหรือไม่?
ดังนั้น… “วันพรุ่งนี้” เป็นต้นไป “ประชาชน ผู้เป็นนาย” ต้องตรวจสอบ ติดตาม และต้องตั้งคำถามว่า “รัฐบาลนี้ ดีหรือไม่” ?
ด้วยความปรารถนาดี เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับ “รัฐบาลใหม่” ในฐานะ “ลูกจ้างใหม่” ของ “ประชาชน”
