ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
คนไทยได้เฮล็อตแรกไปแล้ว เมื่อ ครม.ชุดใหม่มีมติปรับลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 บาท/หน่วย เหลือ 4.10 บาท เริ่มรอบบิลเดือนกันยายนนี้ และลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เริ่มวันที่ 20 กันยายนนี้
แต่ต้องยอมรับว่านั่นเป็นมาตรการเฉพาะหน้าชั่วคราว ในอนาคตข้างหน้า ยังมีความไม่แน่นอนว่าราคาพลังงานจะผันผวนแค่ไหน อย่างไร
ขณะที่ภาวะโลกร้อน ส่งสัญญาณร้ายเตือนภัยถี่ขึ้นผ่านสภาพอากาศสุดขั้ว หรือ Extreme Weather ไม่ว่าจะอุทกภัยที่รุนแรงขึ้นมีผู้เสียชีวิตมากมาย หรืออากาศร้อนสุดขีด ทำให้คนตายไปไม่น้อยในหลายประเทศ
ดังนั้น องค์กรระดับโลกอย่างยูเอ็น ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ให้เกิดภาวะโลกร้อน
จึงมีนวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ๆ ช่วยเปลี่ยนผ่านจากฟอสซิลสู่พลังงานทดแทน ไม่ว่าจะแสงแดด น้ำ และลม
พลังงานสะอาดที่ภาคครัวเรือนจะเข้าถึงได้นั่นคืนแสงแดด และเป็นเทรนด์ของโลกที่ประชาชนในหลายประเทศรวมทั้งไทย ติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือโซลาร์ รูฟท็อป กันมากขึ้น
ขณะที่นวัตกรรมใหม่ๆ มีมาต่อเนื่อง เช่น แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ หรือ Zero Energy House (ZEH) ที่ “ดร.อรรจน์ เศรษฐบุตร” ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีอาคาร ศึกษาและวิจัย จนนำมาใช้ในการออกแบบและสร้างโมเดลบ้าน
ด้วยการออกแบบอาคารให้มีความยั่งยืนด้านการใช้พลังงาน นำเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามาช่วยออกแบบ เช่น เซ็นเซอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง การใช้แอร์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งออกแบบอาคารให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น ทิศทางลม และแสงแดด
ที่สำคัญคือมีระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ พร้อมมีระบบควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมแต่ละฤดูกาล
ขณะที่ภาคเอกชนหลายแห่งก็มุ่งเป้าเรื่องโซลาร์ รูฟท็อป อย่างบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เสนา” ผู้นำรายแรกในการพัฒนาหมู่บ้านที่มีโซลาร์ รูฟท็อป ทุกหลัง และร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อยอดแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์
“ดร.ยุ้ย – ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” กรรมการผู้จัดการเสนา นำร่องเปิดโครงการบ้านบนแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ไปแล้ว 2 แห่ง ที่โครงการ เสนา วิลเลจ รามอินทรา กม.9 และเสนา วิลล์ วงแหวน–บางบัวทอง
ทั้งติดตั้งโซลาร์เซลล์ ที่โครงการบ้านเสนาฯ และที่อยู่อาศัยต่างๆ ไปแล้วกว่า 400 หลังคาเรือน ตลอดจนคอนโดอีกหลายโครงการที่ต่อยอดเป็น “คอนโด Low-Carbon” โดยนำหลักการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ท ซิตี้ มาปรับใช้พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ภายในโครงการอย่าง สมาร์ทเอ็นเนอร์ยี หรือสมาร์ทโมบิลิตี้ เพื่อความสะดวกสบาย และประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เริ่มมีมากขึ้น เท่ากับว่ายิ่งทำให้มีค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
การมีบ้านที่ผลิตพลังงานใช้เองสามารถควบคุมต้นทุนค่าไฟในระยะยาวอย่างต่ำ 25 ปี ตามอายุแผงโซลาร์เซลล์ อีกทั้งภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการซื้อไฟส่วนที่เหลือจากโซลาร์ รูฟท็อป ทำให้คุ้มทุนเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐส่งเสริมการซื้อขายไฟฟ้ากันเองให้มากขึ้น ออกกฎให้ผู้ประกอบการใช้วัสดุและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมากขึ้น จะกระตุ้นอุตสาหกรรมอสังหาฯ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
รัฐบาลใหม่คงไม่หลงลืมส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับภาคประชาชน มุ่งสู่การเป็น “บ้านแห่งอนาคต” ในต้นทุนที่ถูก เพื่อให้คนไทยเอื้อมถึงมากขึ้น เพราะนอกจากช่วยลดค่าไฟแล้ว ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย
สัญญา รัตนสร้อย