ปิยบุตร ประกาศยุติคอมเมนต์การเมือง หลังเจอทัวร์ด้อมส้ม เตรียมข้อเขียนสุดท้ายถึงก้าวไกล 

ปิยบุตร ประกาศยุติคอมเมนต์การเมือง หลังทัวร์ลงเคสช่อ เตรียมข้อเขียนสุดท้ายถึงก้าวไกล 

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ไลฟ์ผ่านเพจส่วนตัว แสดงความคิดเห็นถึงผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่ไม่พอใจหลังออกมาโพสต์วิจารณ์ถึงพรรคก้าวไกลไม่มีท่าทีต่อกรณีที่ ..พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ถูกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ต้องให้กำลังใจ น.ส.พรรณิการ์ เรื่องนี้เป็นจิตสำนึกส่วนตัวเล็กน้อย อย่างที่ทุกคนทราบว่าตนเป็นคนชวน น.ส.พรรณิการ์ มาร่วมตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน ขอให้มาเป็นโฆษกพรรค เมื่อ น.ส.พรรณิการ์ มาโดนโทษแบบนี้

ส่วนตัวเสียใจ มีความรู้สึกนึกย้อนไปว่า ถ้าวันนั้นไม่ชักชวนมา น.ส.พรรณิการ์ก็คงจะเป็นผู้ประกาศข่าวที่มีชื่อเสียง ผลงานก็เป็นที่นิยมของคนจำนวนมาก วันนั้น น.ส.พรรณิการ์ เด็ดเดี่ยวมากตัดสินใจมาร่วมกันเพื่อผลักดันพรรคการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม วันนี้มานั่งนึกย้อนหลัง ถ้า น.ส.พรรณิการ์ไม่ตัดสินใจมาร่วมกัน การแสดงออกของ น.ส.พรรณิการ์ เมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมาก็คงไม่มีใครไปขุด

“ก็ต้องยอมรับว่า ถูกขุด เพราะบทบาทที่ฝ่ายอนุรักษ์จารีต ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย รู้สึกกังวลใจพรรคอนาคตใหม่ จนเรื่องมาถึงวันนี้ ผมก็เลบมานั่งคิดว่า วันนั้นถ้าไม่ไปชวน ชีวิตเขาก็อาจไปได้ดี ไม่ถูกใครตั้งข้อรังเกียจ ถูกชังแบบนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ผมอาจจะอินเรื่องนี้มากอยู่พอสมควร เพราะด้านหนึ่งของเรื่องนี้ มันก็พัวพันกับการเริ่มต้นของผมที่ไปชวนคุณช่อมา”

Advertisement

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า ทราบเรื่องนี้มีคนตำหนิวิจารณ์ บ้างก็ว่าตนใจร้อน ไม่ดูไลน์กลุ่ม ทำไมไม่ส่งไลน์ไป ทำไมต้องมาพูด ขอน้อมรับคำวิจารณ์ แต่อยากชี้แจงว่าไม่มีโอกาสเข้าไปแนะนำ แนะแนวอะไรในพรรคก้าวไกลหรอก มีคนบ้างก็ให้ไปคุยกัย ส.ส.เงียบๆ สิ แต่ในทางกฎหมายถูกห้ามเรื่องครองงำ และในความเป็นจริง ก็ไม่ได้มีโอกาสแนะนำแนะแนวอะไรเลย เว้นเสียแต่ไปเจอ ส.ส.ก็พูดคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้ไปสั่งสอนแนะนำอะไรภายในพรรคเลย

ดังนั้น ส.ส. 151 คน กับผู้บริหารพรรค จะไปแนะนำอะไร นอกจากสื่อสารผ่านโพสต์กันที่สาธารณะเพื่อเป็นหลักประกันว่า ทุกคน ทั้งพรรคและผู้สนับสนุนได้อ่านแน่นอน ดังนั้น จึงวิจารณ์ตรงไปตรงมาอย่างสม่ำเสมอ เพราะส่วนตัวยังเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกลอยู่ แต่ด้วยความเชื่อมั่นแบบนี้ จึงต้องวิจารณ์กันตรงไปตรงมา แต่เมื่อผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ไม่พร้อมให้วิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่เป็นไร

อย่างน้อยคำวิจารณ์ได้รับยืนยันว่าได้อ่านทั้งหมด จึงได้กลับมาคิดทบทวนว่า ถ้าสถานการณ์ไม่พร้อมให้ตนพูดตรงไปตรงมา นับตั้งแต่นี้ก็จะพยายามไม่พูดถึงพรรคก้าวไกล แต่จะมีอีกข้อเขียนหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อเขียนที่เตรียมไว้นานแล้ว ถึงพรรคก้าวไกล อาจจะเป็นข้อเขียนสุดท้าย แล้วต่อไปนี้จะไม่พูดแล้ว เพราะรู้สึกว่าพูดแล้วจะมีคนรู้สึกไม่พอใจ ข้อเขียนนี้ก็อยากให้ลองเอาไปพิจารณาดูว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อการเมืองไทย และเพื่อนพ้องน้องพี่ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย

Advertisement

“ยอมรับว่าเกิดอารมณ์เบื่อขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อสาธารณะไปทำไม พูดไปแล้วก็ถูกทัวร์มาจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายความมั่นคง ผู้สนับสนุนเพื่อไทย และผู้สมัครก้าวไกลด้วย โดยหมดทุกทาง ก็เลยเริ่มคิดถึงการพักผ่อนสบายๆ ลดบทบาทในการแสดงความเห็นในที่สาธาณะ ข้อเขียนต่างๆ ก็อาจจะเขียนเรื่องหนัง เรื่องเพลง ฟุตบอล ไม่พูดเรื่องการเมืองดีกว่า เพราะพูดแล้ว มันมาทุกทาง ไปนั่งคิดถึงตัวเองบ้าง ว่าที่ผ่านมาทำไปทำไม ทำแล้วให้คนเกลียดเรามากขึ้นจากทุกทางด้วย จากนี้จะพยายามไม่พูดถึง แล้วก็ไปทำอย่างอื่น เขียนหนังสือตำราที่ค้างไว้ตั้งแต่เป็นอาจารย์ คิดว่าถึงว่าจะยุติเรื่องพวกนี้ซะที กลับไปทำงานวิชาการดีกว่า ไปเขียนหนังสือให้มันเสร็จ เรื่องการเมืองก็ให้เขาว่าไป” นายปิยบุตรระบุ

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image