ส.ว.เรียกแจงยิบ อาการป่วยทักษิณ ยกเกณฑ์พักโทษ ได้กลับบ้านก.พ.’67 ไม่ต้องใส่กำไล

‘ทักษิณ’ ได้กลับบ้านของจริงเดือน ก.พ.2567 ยกเหตุเข้าเกณฑ์พักโทษ หลังรับโทษมาแล้ว 6 เดือน อ้างแม้จะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็เข้าข่ายเหมือนถูกนับโทษในเรือนจำ

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 25 กันยายน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงภายหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ติดตามดูแลนักโทษของระบบราชทัณฑ์ กรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กมธ.ได้รับคำตอบชัดเจนในระดับหนึ่งใน 4 ประเด็นคือ 1.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ที่ให้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ มีทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเวรเฝ้าดูแลควบคุม ข้อครหาที่ว่านายทักษิณไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจริง หรือกลับบ้านไปเลี้ยงหลานแล้วนั้น ตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยืนยัน นายทักษิณยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

2.การรักษาตัวเป็นไปตาม 4 โรคสำคัญ ที่มีผลรับรองทางการแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่การผ่าตัดนายทักษิณโดยแพทย์ใหญ่ ที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเรื่องอาการป่วยและการผ่าตัด เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิผู้ป่วย และตัวแทนแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่มาชี้แจง กมธ.ในครั้งนี้ไม่ใช่แพทย์ผู้ดูแลรักษานายทักษิณ แต่ กมธ.ให้คำแนะนำว่า ขณะนี้มีการสงสัยอาการป่วยหลายโรค แพทย์ควรชี้แจงว่ามีโรคใดที่ควรกังวล ใช้เวลาพักฟื้นเท่าใด เพื่ออธิบายให้สังคมเข้าใจ คลายความสงสัย แม้ประเด็นกล่าวจะเป็นสิทธิของผู้ป่วยและญาติไม่เปิดเผย แต่ควรอธิบายให้สังคมเข้าใจในบางระดับว่าจะต้องรักษาต่อไปอีกนานเท่าใด กมธ.แนะนำสามารถส่งข้อมูลทางลับได้ เพราะ กมธ.จะไม่นำไปเปิดเผย

นายสมชายกล่าวว่า 3.ถ้านายทักษิณอาการดีขึ้นจะส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระบุว่า ต้องดูอาการนายทักษิณอยู่ในเกณฑ์ใด ขึ้นอยู่กับแพทย์จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ และเป็นสิทธิของญาติที่จะชี้แจงกับสังคมหรือไม่ โดย กมธ.ไม่ก้าวล่วง

Advertisement

4.กรณีรับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือ 1 ปี จะได้รับการลดโทษได้อีกหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ระบุว่า เกณฑ์ขอลดโทษตามห้วงเวลาที่ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น มีช่วงเวลาตามวโรกาสพิเศษ เช่น วันที่ 5 ธันวาคม 28 กรกฎาคม 12 สิงหาคม แต่การขอลดโทษตามเกณฑ์ดังกล่าวนักโทษต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน โดยยึดเกณฑ์เวลาที่มากกว่า ซึ่งกรณีนายทักษิณจะครบเกณฑ์รับโทษ 6 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับสิทธิการพักโทษ เพราะอยู่ในเงื่อนไขมีอายุเกิน 70 ปี แม้จะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจก็ถือว่าเข้าข่ายให้นับโทษอยู่ในเรือนจำ

ดังนั้น หากนายทักษิณรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจครบ 6 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก็จะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่กำไลอีเอ็ม แต่อาจจำกัดพื้นที่ให้อยู่ที่บ้านในประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางไปนอกราชอาณาจักรได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กมธ.ได้รับข้อมูลหรือไม่ว่า นายทักษิณต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจไปอีกนานแค่ไหน นายสมชายตอบว่า เป็นประเด็นที่แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจจะพิจารณา กมธ.ไม่ค่อยได้รับคำตอบเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ เราไม่สามารถไปบังคับให้ต้องตอบ ทำได้แค่ให้คำแนะนำ ถ้าไม่ตอบสังคมจะมีความสงสัย หากไม่ป่วยต้องกลับเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่หากป่วยต้องชี้แจงถึงระยะเวลารักษา อยากเห็นความตรงไปตรงมา หากนายทักษิณตัดสินใจจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากปล่อยให้มีความสงสัยและเกิดเป็นคลื่นใต้น้ำ อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมได้ กมธ.จะให้เวลาอีก 1 เดือนคือ ในช่วงเดือนตุลาคม ก่อนที่นายทักษิณจะครบสิทธิการรักษาตัวนอกเรือนจำอีก 30 วัน จากนั้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image