สถานีคิดเลขที่12 : ก้าวไกลยุคชัยธวัช

สถานีคิดเลขที่12 : ก้าวไกลยุคชัยธวัช

เ มื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกลเดินทางขึ้นเหนือ

ไปที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยทีมงาน โดยเฉพาะนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center

ทั้งสองคนร่วมบรรยายเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองที่ทำให้ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

Advertisement

น่าสนใจ

เพราะพรรคก้าวไกลได้ชัยชนะเพราะนโยบาย และนโยบายที่นำเสนอมีถึง 300 นโยบาย

นี่แสดงว่านโยบายของพรรคก้าวไกลโดนใจประชาชน

Advertisement

นายพิธา และนายเดชรัต เผยเบื้องหลังการทำนโยบายให้ฟัง

นายพิธาบอกว่า นโยบายที่หาเสียง 300 นโยบาย ครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคม

การออกแบบนโยบายดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน

1.การค้นหาประเด็นนโยบายและปัญหา

2.การออกแบบรายละเอียดนโยบาย

3.การทดสอบความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง

และ 4.การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

นายเดชรัตมาขยายเบื้องหลังแห่งความสำเร็จต่อไปว่า นโยบายเหล่านั้นต้องใช้บุคลากรถึง 200 คน

มีคณะทำงานประจำ และคณะทำงานอาสาสมัครที่อยู่ในแต่ละพื้นที่

หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือสะท้อนปัญหา ชี้เป้าปัญหา ให้แก่พรรคเพื่อนำไปออกแบบเป็นนโยบาย

คณะทำงานทั้งหมดทำงานมากกว่า 4,200 ชั่วโมง มีการลงพื้นที่นับร้อยครั้ง

กระทั่งสามารถกลั่นกรองมาเป็น 300 นโยบาย

การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

พอมีนโยบายแล้วก็ใช่ว่าจะสำเร็จหากขาดการสื่อสาร ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเริ่มสื่อสารนโยบายให้ประชาชนทราบ

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพใช้หลากหลายวิธีด้วยกัน

เช่น การอบรมผู้ลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรค และแกนนำของพรรคทุกคน

ทำความเข้าใจในนโยบายแต่ละนโยบายอย่างถ่องแท้

มีการทำสมุดและเว็บไซต์ลงรายละเอียดนโยบายทั้ง 300 นโยบายอย่างละเอียด

เวทีดีเบตทุกเวทีที่พูดถึงเรื่องนโยบาย ตัวแทนพรรคก้าวไกลจึงไม่ตายคาเวที

เพราะตอบคำถามได้ครอบคลุม

และตอบไปในทิศทางเดียวกันทั้งพรรค

แนวทางการทำนโยบายของพรรคก้าวไกลชี้ชัดว่าความสำเร็จของการเลือกตั้งมาจากนโยบายที่โดนใจประชาชน

นั่นเป็นก้าวไกลยุค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค

แต่ต่อไปคือยุคที่ นายชัยธวัช ตุลาธน ที่เพิ่งรับหน้าที่หัวหน้า

นายชัยธวัชไม่ใช่คนอื่นไกล เพราะเป็นเพื่อนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และล้มลุกคลุกคลานกับการปลุกปั้นพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา

และเป็นแกนนำคนสำคัญที่ผลักดันให้พรรคก้าวไกลขยับขึ้นติดอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

แม้ว่าใครต่อใครคาดการณ์ว่าพรรคก้าวไกลอาจมีอนาคตที่ถูกยุบ

แต่นั่นคือการคาดการณ์ ขณะที่ความเป็นจริงคือยังดำเนินการอยู่

เมื่อยังดำเนินการได้ จึงต้องสร้างผลงาน

ระยะสั้น นายชัยธวัชยต้องนำพรรคก้าวไกลทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งได้ประกาศไปแล้วว่าจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก

และยังมีปัญหาเฉพาะหน้าตรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่ง นายปดิพัทธ์ สันติธาดา นั่งอยู่

ล่าสุดพรรคก้าวไกลมีมติขับนายปดิพัทธ์ เพราะก้าวไกลต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเพื่อผลักดันงานในสภา

แต่ดูเหมือนว่ามติขับนายปดิพัทธ์กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็น “การละคร”

แต่เป้าหมายของพรรคก้าวไกลนั้นประกาศย้ำหลายครั้งว่าต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ

การทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านเป็นเพียงอุปกรณ์ที่จะช่วยผลักดันให้ประชาชนประทับใจ และยังคงไว้วางใจเลือกให้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทุกอย่างเป็นไปได้แค่ไหน ต้องรอดูฝีมือนายชัยธวัช

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image