บก.ลายจุด งงแฟนพท. ไม่สู้ด้วยหลัก ไปอัด 99 นักเศรษฐศาสตร์ เป็นสลิ่ม ค้านเงินดิจิทัล

บก.ลายจุด แนะรบ.ปรับวงเงิน แจกดิจิทัล เข้าใจเลิกไม่ได้ นโยบายเรือธง รับงงจริง เจออัด ไร้ความรู้ แต่พอ 99 นักเศรษฐศาสตร์ค้าน ก็ไปว่าสลิ่ม ถามทำไมไม่ถกเถียงด้วยหลักเหตุผล

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ 99 นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง ให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงิน digital 10,000 บาท โดยมีเนื้อหาดังนี้

ส่วนตัวเห็นว่า การแจกเงิน 1 หมื่นควรให้กับคนมีรายได้น้อย แต่เห็นใจว่า ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยปรับตามนั้น ก็จะขัดต่อที่เคยให้คำสัญญาไว้ และคนไทยก็ต่างตั้งตารอ ดังนั้น เสนอว่า ถ้าหาเงินมาได้ไม่พอก็ลดวงเงินของคนที่พอมีเงินลงเหลือสัก 3-5000 บาท ส่วนคนจนทั่วไปจะให้เท่าเดิม หรือจะลดลงสัก 2,000 บาท เหลือ 8,000 บาทก็น่าจะพอยอมรับกันได้

ลดวงเงินไปประมาณ 25-30 % ของโครงการ

Advertisement

เชื่อว่าแรงต้านจะลดลงและคนไทยเรามีสุภาษิตว่า “กำขี้ดีกว่ากำตด”
ลานจอดรถทัวร์ใต้ Comment

ผายมือ…………”

จากนั้น นายสมบัติ ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวอีกว่า “ตอนที่ผมออกมาพูดเรื่อง digital wallet ของเพื่อไทย ฝ่ายสนับสนุนตอบโต้ผมว่า ผมเรียนจบอะไรมา หรือมีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคระดับไหนถึงกล้ามาวิจารณ์

Advertisement

พอนักวิชาการและอดีตผู้ว่าแบงค์ชาติออกแถลงการณ์ 99 คน ฝ่ายสนับสนุนเพื่อไทยก็ออกมาบอกว่าคนพวกนี้เป็นนักวิชาการสลิ่ม ไม่เคยออกมาแย้งสมัยรัฐบาลประยุทธ์ หรือไม่ก็ตอบโต้ว่า นักวิชาการไม่ใช่เถ้าแก่ไม่เคยทำการค้า ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคก็ยังแย้งด้วยเหตุผลที่อ่อนกว่ามาก

บางคนเลยไปว่า จะเกิด Payment Gateway แบบใหม่ระดับโลก พลิกโฉมระบบธุรกรรมที่มีความโปร่งใสแบบทำลายวงการทุจริตได้ แต่แนวโน้มชัดเจนมากว่าถ้าเอา Blockchain มาใช้จะเป็น Private Blockchain แน่นอน แล้วความโปร่งใสจะอยู่ตรงไหน และมันจะมี Node สักกี่ตัว แค่มีคำสั่งปรับแก้ไขมันก็ปรับได้หมดแหละ คือการเอาโมเดล Node ของ Bitcoin มาเทียบกับ digital wallet นี่น่าขำมาก

เมื่อวานผมไป Comment ไว้ในเฟสผู้สนับสนุนเพื่อไทยคนหนึ่งว่า ให้ตอบโต้เหตุผลที่นักเศรษฐศาสตร์กังวล แต่ไม่มีใครเลยที่คิดว่า จะเลือกใช้เหตุผลในการตอบโต้นักเศรษฐศาสตร์เหล่านั้น เอาจริงๆ ผมรู้อยู่แล้วว่าไม่มีปัญญา เพราะถ้ามีศักยภาพขนาดนั้นต้องตอบโต้มานานแล้ว ไม่ใช่ท่องอยู่นั่นแหละว่า เชื่อมือพรรคเพื่อไทยโดยอ้างจากผลงานในอดีต คนกลุ่มนี้ใช้ความเชื่อเป็นหลัก ทำให้ความสามารถในการใช้เหตุผลลดลง ในขณะที่ปกติการโต้แย้งในเรื่องอื่นจะพอมีหลักการ และเหตุผลอยู่บ้าง แต่ digital wallet นี่ถือว่าเบาหวิว

เมื่อมาถึงตรงนี้ ผมพยายามอ่านใจพรรคเพื่อไทยว่าจะทำยังไงกับโครงการนี้ภายใต้เสียงท้วงติงจำนวนมากและข้อจำกัดและความยากลำบากในการดำเนินการโครงการที่เกิดจากตัวโครงการเอง ผมอ่านว่าเพื่อไทยรู้ตัวว่าอยู่ในภาวะยากลำบากในทางปฏิบัติ และรับรู้ข้อท้วงติงที่มีน้ำหนักและมองเห็นความอันตรา ยจากโครงการนี้ แต่เนื่องจากเป็นนโยบายเรือธง จึงต้องตั้งธงไว้ว่า จะทำให้ได้จึงอยู่ระหว่างการปรับแก้หาทางออกในเรื่องนี้ ไอ้ที่บอกว่า จะพูดจนกว่ามีข้อสรุปนั้นอาจจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องหลักแล้วคือโครงการนี้มีปัญหาและไม่พร้อมออกมาตอบโต้หรือชี้แจง เพราะยิ่งชี้แจงจะยิ่งทำให้เละ การเงียบและนิ่งไว้แล้วโดนคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้

สงสารก็แต่ผู้สนับสนุนเพื่อไทยที่ยืดถือและเชื่อใจพรรคโดยไม่มีคำถาม หรือพยายามรับฟังคำโต้แย้ง และใช้เหตุผลตอบโต้หากคิดว่า มันทำได้จริง แต่ก็นั่นแหละ พรรคเพื่อไทยยังโต้ไม่ได้ ติ่งแบกที่ไหนจะโต้ได้ ก็เอาแต่ตะโกนว่าคนวิจารณ์เป็นสลิ่ม เฮ้ย…..สมอง

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image