09.00 INDEX สัญญาณเปลี่ยนผ่านเพื่อไทย ระหว่าง เศรษฐา สู่ แพทองธาร
ไม่ว่าจะมองการเคลื่อนไหวผ่านแต่ละจังหวะก้าวของ นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่าจะมองการเคลื่อนไหวผ่านแต่ละจังหวะก้าวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สัมผัสได้ใน “การเปลี่ยนแปลง”
ด้านหลักอาจรับรู้ผ่านกระบวนการ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ไปสู่องค์ประกอบแห่งความเป็น “รัฐบาลพิเศษ”
ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว “การเปลี่ยนผ่าน” นี้ดำรงอยู่อย่างลึกซึ้ง
เป็นความลึกซึ้งที่การเมืองมิได้มีแต่ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็น “นายกรัฐมนตรี” เท่านั้น หากแต่ยังรับรู้ถึงการรุกคืบเข้ามาอย่างเป็นระบบของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
นั่นก็คือ การปรากฏขึ้นของโครงสร้างของ “คณะกรรมการแห่งชาติ” ที่มิได้จำกัดแต่เพียงในพรมแดนด้าน “ซอฟต์เพาเวอร์” เท่านั้น หากที่เพิ่งประกาศคือ “สุขภาพแห่งชาติ”
ความน่าสนใจเป็นอย่างมากที่แม้จะมี นายเศรษฐา ทวีสิน ดำรงอยู่ในสถานะแห่ง “ประธาน” แต่ตำแหน่ง “รองประธาน” ก็เป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ยิ่งกว่านั้น ตำแหน่งกรรมการและเลขานุการยังเป็นของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อย่างเด่นชัด
นี่คือกระบวนการใหม่ ภายใต้โครงสร้างของพรรคเพื่อไทย
ต้องยอมรับว่า การรุกคืบเข้ามาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สัมพันธ์ไม่เพียงแต่กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแต่ยังสัมพันธ์อยู่กับการดำรงอยู่ของ แคร์ คิด เคลื่อน ไทย อย่างมีนัยสำคัญ
กระบวนท่าแห่งการเคลื่อนไหวนี้สอดรับกับกระบวนท่าในการผลักดันและให้บทบาทต่อ โทนี่ วู้ดซั่ม ก่อนปี 2566
กล่าวสำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็เริ่มต้นจากเข้ามารับผิดชอบงานด้านนวัตกรรมและการมีส่วนในพรรค แล้วยกระดับเข้าสู่ “หัวหน้าครอบครัว” เป็นหัวรถจักรชับเคลื่อนการเลือกตั้ง
เริ่มจากการเปิดตัวผ่านการประชุมใหญ่ที่จังหวัดชอนแก่นแล้วปักธง “ครอบครัวเพื่อไทย”ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งล้วนเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง
ทั้งหมดล้วนเป็นรากฐานแห่งการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง โดยมีพื้นฐานจากทุกองค์ประกอบของพรรคเพื่อไทยครบถ้วน
มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า บทบาทของ นายเศรษฐา ทวีสิน กับ บทบาทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำเนินไปอย่างสัมพันธ์และหนุนเสริมต่อกันและกัน
ไม่ว่าจะมองผ่าน “รัฐบาล” ไม่ว่าจะมองผ่าน “พรรคเพื่อไทย”
แต่ละจังหวะก้าวดำเนินไปในลักษณะอันเป็นการรุกคืบ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนผ่านและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงตามมา
เท่ากับเป็นการนำเอาความจัดเจนจากยุค “ไทยรักไทย”มาเป็นกระดานหกให้กับก้าวต่อไปในยุค “เพื่อไทย”