ศปปส.-นักรบเลือดสีน้ำเงิน บุกสภาฯ ค้านนิรโทษ ฉบับก้าวไกล ลั่นรับไม่ได้ รวมคดี 112

‘ศปปส.-นักรบเลือดสีน้ำเงินฯ’ ร้อง ‘ปธ.สภาฯ’ คัดค้านเสนอ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่รัฐสภา ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศปปส. และนักรบเลือดสีน้ำเงินปกป้องราชบัสลังก์ เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล ต่อตัวแทนของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายอานนท์ กล่าวว่า เรายื่นหนังสือคัดค้านในวันนี้ เนื่องจาก เห็นว่า คนที่ยื่นแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าวต่างเป็นผู้ที่กระทำการผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 ทั้งนั้น นี่ไม่ใช่แค่ความคิดต่างทางการเมือง แต่เป็นกฎหมายความมั่นคง เราจึงออกมาคัดค้าน เพื่อไม่ให้ร่างกฏหมายฉบับนี้ผ่านไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะต้องทำด้วยวิธีใด เราก็จะทำ

สมาชิกศปปส. กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.ของพรรคก้าวไกล ได้แถลงยื่นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. … ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์เป็นผู้รับ ซึ่งเมื่อศปปส. และกลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินฯ ได้ฟังแถลงการณ์จากนายชัยธวัช ดังกล่าวแล้ว ก็รู้สึกคลางแคลงใจ สงสัยในรายละเอียดบางประการ อาทิ การนิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทําความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทาง การเมือง ซึ่งหมายรวมถึงบุคคลซึ่งได้กระทําความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง หรือกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่ เพราะในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุแต่เพียงว่า “ไม่นิรโทษกรรมการกระทําผิดตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 113” นั้น ย่อมทำให้เข้าใจได้ว่า บุคคลซึ่งได้กระทําความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงใน มาตราอื่นๆ อาทิ การกระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะได้รับการนิรโทษกรรมตามร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ด้วยใช่หรือไม่

Advertisement

สมาชิกศปปส. กล่าวต่อว่า นิยายของคําว่า “ผู้กระทําความผิดอันเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง” ของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้คืออะไร เพราะยังมีความคลุมเครือระหว่าง “ผู้กระทําความผิดอันเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง” และ “ผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง หรือกฎหมายอาญามาตรา 112” ซึ่งต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน ดังนั้น ในความคลุมเครือไม่ชัดเจนในเรื่องของ “ผู้กระทําความผิดอันเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง” ที่พรรคก้าวไกลบรรจุอยู่ในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับดังกล่าว อาจเหมารวมถึง “ผู้กระทําผิด เกี่ยวกับความมั่นคง หรือกฎหมายอาญามาตรา 112” เข้าไปด้วย ซึ่งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อยู่ในลักษณะ 1 ของความผิดต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หมวด 1

สมาชิกศปปส. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ “อนึ่งคดีความมั่นคงไม่ใช่คดีทางการเมือง” ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในเรื่อง ดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการจัดการชุมนุมในแต่ละครั้ง ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มักที่จะอ้างว่า เป็นการออกมาเรียกร้องทางการเมือง แต่ทุกครั้งที่ขึ้นปราศรัยส่วนใหญ่แล้ว จะปราศรัยหมิ่น,จาบจ้วง,ก้าวล่วง,โจมตี,ใส่ร้าย,กล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นที่มาของบรรดาผู้ชุมนุมที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งความดําเนินคดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ว่าจะเป็นแกนนํา และหรือผู้ชุมนุมที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มต่างๆ รวมไปถึงส.ส. หลายๆ คน ของพรรคก้าวไกล จึงเป็นข้อกังขา ข้อสงสัย และข้อสันนิษฐานว่า นี่เป็นที่เป็นที่มาของการดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับดังกล่าว เพื่อให้ถูกบรรจุเป็นญัตติในการประชุมรัฐสภา

“ทางศปปส. และกลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินฯ จึงทําหนังสือฉบับนี้ เพื่อนําเสนอต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้ เป็นวาระสําคัญ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อ ผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และหรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง และเพื่อดํารงคงอยู่ไว้ซึ่ง 3 สถาบันหลักของชาติ อันประกอบไปด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” สมาชิกศปปส. กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image