‘ไอติม’ ชี้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายหลัง พ.ร.บ.งบ ปี’67 ผ่านวาระ 3 ต้นปีหน้า เป็นจังหวะเหมาะตรวจการบ้าน รบ. อุบงัด ม.151 ลงมติไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ แย้มปักธงชําแหละ ‘เงินดิจิทัล 1 หมื่น’ เพราะเป็นนโยบายเรือธง
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า การที่ฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นอภิปรายรัฐบาลหลังร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ผ่านวาระ 3 ถือว่าเร็วไปว่า การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบ ปี’67 หลังผ่านวาระ 3 เป็นเพียงการหารือปฏิทินการทํางานร่วมกันของฝ่ายค้านในเบื้องต้น ยังไม่ได้มีการปักหมุดหมายที่ชัดเจน ต้องมีการตัดสินใจเมื่อถึงเวลานั้นอีกทีหนึ่ง
แต่เรามองว่าหากงบ ปี’67 ผ่านวาระ 3 ในช่วงระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ปี’67 หากจะมีการเปิดอภิปรายหลังจากนั้น ก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการทบทวนว่านโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาคืบหน้าไปแล้วเท่าไหร่ และผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
ทั้งนี้ การเปิดอภิปรายมี 2 ทางเลือก 1.การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อยื่นข้อเสนอแนะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 2.การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ซึ่งจะเป็นทางเลือกไหนใน 2 ทางเลือกนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของรัฐบาลจากวันนี้ถึงวันนั้น
นายพริษฐ์กล่าวว่า หากถามว่าเร็วไปหรือไม่ ก็คงไม่ได้เร็วไป เพราะถ้าอ้างอิงในสภาชุดที่ 25 รอบที่แล้ว ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรค พท.ก็มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ประมาณ 7-8 เดือนหลังการแถลงนโยบาย ดังนั้น หากมีการยื่นอภิปรายหลังจากร่าง พ.ร.บ.งบ ปี’67 ผ่านวาระ 3 ก็จะเป็นกรอบระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันกับสภาชุดที่ 25
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จะถูกยื่นอภิปรายด้วยหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ถ้ามีการเปิดอภิปรายโดยทั่วไป ทั้งตามมาตรา 151 และ 152 ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน กรอบการอภิปรายคงเป็นการวิเคราะห์ หรือทบทวนนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไป ซึ่งแน่นอนว่า ในฐานะที่นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล และประกาศไว้ว่าจะมีการดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี’67 ก็คงจะมีการยื่นข้อเสนอแนะ หรือวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของนโยบายนี้
