‘จาตุรนต์’ ติดแนวปวศ. ไม่พลาดปกใหม่ ปลื้มออเจ้า-พรหมลิขิต ห่วงรัฐเซ็นเซอร์ ขวางซอฟต์เพาเวอร์ไทย

‘จาตุรนต์’ คอ ปวศ. ไม่พลาดปกใหม่ ปลื้ม ‘ออเจ้า-พรหมลิขิต’ หมูกระทะ-น้ำปลาหวานน่าดัน ห่วงรัฐเซ็นเซอร์ ขวางซอฟต์เพาเวอร์

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ฮอลล์ 5-7 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) และพันธมิตร จัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 12-23 ตุลาคมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันหยุดโค้งสุดท้ายของมหกรรมหนังสือเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชน นิสิต นักศึกษา เดินทางมาเลือกซื้อหนังสืออย่างล้นหลาม ในส่วนของสำนักพิมพ์มติชน(ด)รามา (J47) มีการจัดโซนใหม่ เพิ่มหมวดหมู่ ‘หนังสือตามรอยพรหมลิขิต’ ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ช่วงสมัยอยุธยา ท่ามกลางการตกแต่งธีมโรงหนังย้อนยุค พร้อมโซนแลกของที่ระลึกแนววินเทจพรีเมียมอีกมากมาย อีกทั้งยังมีกิจกรรมแจกลายเซ็นนักเขียนให้แฟนหนังสือในช่วงบ่ายวันนี้

บรรยากาศเวลา 13.00 น. มีโปรแกรมพบปะมิตรรักนักอ่าน นำโดย รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือเล่มฮิต ‘ความหวังที่เคลื่อนไหว’ ซึ่งเดินทางมาที่บูธสำนักพิมพ์มติชน แจกลายเซ็นให้กับแฟนอ่านหนังสือที่มาต่อคิวพบปะอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาเยี่ยมบูธสำนักพิมพ์มติชน โดยเลือกซื้อหนังสือกลับไปจำนวนมาก อาทิ ความหวังที่เคลื่อนไหว โดย ประจักษ์ ก้องกีรติ, โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า โดย หนุ่มเมืองจันท์, ระบบกำกับดูแลที่ดินไทยต้องปฏิรูป โดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร, นิธิ เอียวศรีวงศ์ กับตาข่ายแห่งความทรงจำและนิยามประชาธิปไตย โดย สายชล สัตยานุรักษ์ เป็นต้น อีกทั้งยังร่วมพูดคุยกับนักเขียน รศ.ดร.ประจักษ์ และสรกล อดุลยานนท์ หรือหนุ่มเมืองจันท์ พร้อมนำหนังสือไปให้ผู้เขียนเซ็นเป็นที่ระลึก

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ตนมาบูธมติชนทีไร มักจะเลือกซื้อหนังสือการเมือง ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์คลาสสิก และประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ซึ่งจะทำให้เกิดจินตภาพถึงสังคมอยุธยาในอดีตอย่างหลากหลาย

Advertisement

“อย่างเล่ม ประวัติศาสตร์อยุธยา 5 ศตวรรษสู่โลกใหม่ ที่ผมเคยอ่านไป 2 ปีที่แล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องไทยรบพม่าอย่างเดียว แต่ยังเห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง สภาพสังคม บ้านเรือน การค้าขาย คนไทยและต่างชาติในยุคนั้น ทำให้เห็นถึงความคิดของคนสมัยนั้น” นายจาตุรนต์เผย

นายจาตุรนต์เผยด้วยว่า ตนดูละครบุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิตอยู่ ดูเป็นเพียงบางตอน ซึ่งก็รู้สึกว่าดีในแง่ของการนำเสนอ ที่มีการศึกษาข้อมูลมานำเสนอ ดีพอสมควร ทำให้ได้เห็นถึงแง่มุมที่หลากหลาย ไม่ได้มีเพียงเรื่องจะรบกันท่าเดียว

“สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างชาติ อารยธรรม ความขัดแย้ง ความแตกต่างในขณะนั้น มันก็เป็นแง่มุมที่น่าจะได้เรียนรู้ รับรู้กัน แต่การเล่าประวัติศาสตร์ต้องเปิดโอกาสให้คนเขียน แล้วมาแลกเปลี่ยนกัน ผมคิดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก” นายจาตุรนต์เผย

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนการส่งเสริมเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ ที่เห็นมีการแชร์ อย่างหมูกระทะ มะม่วงน้ำปลาหวาน ออกไปเป็นวงกว้าง ตนคิดว่ารัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกชน ต้องผลักดันให้คนเกิดความคิดสร้างสรรค์

“ต้องทำให้เขามีโอกาส มีช่องทางพัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมให้เขามีมีช่องทางผลิตผลงานส่งออกไป ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้เป็นที่รู้จักแล้วดึงดูดความสนใจจากประเทศต่างๆ” นายจาตุรนต์กล่าว

นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องภาพยนตร์แล้ว รัฐบาลต้องไปดูว่ามีอะไรปิดกั้น ทั้งทางระเบียบกฎหมายและวัฒนธรรมเอง จะทำหนังเรื่องหนึ่ง แต่มีระบบเซ็นเซอร์เต็มไปหมด เมื่อเทียบกับต่างประเทศ อย่างเกาหลีใต้ ที่เขาทำได้หลากหลายแง่มุมได้

“ตัวละครเอก ตำรวจที่ไม่ดีในหนังไทยไม่มี ผู้พิพากษาไม่ดี เราไม่มี ผมไม่ได้บอกว่าต้องการเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ แต่มันไปจำกัดสิทธิความคิดของคนที่จะทำเป็นหนังเพื่อถอดบทเรียน ถ้าเราทำแต่หนังไทย หรือสารคดีเกี่ยวกับประเทศไทยดีอย่างไร แล้วจะหวังให้เรื่องนั้นจะเป็นภาพยนตร์ยอดฮิตไปทั่วโลก ไม่มีทางนะ” นายจาตุรนต์ชี้

นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า หนังไม่มีทำออกมาว่าประเทศไทยดีเลิศประเสริฐศรี ไม่มีคนชั่วเลย ไม่มีอะไรผิดปกติเลย มันเป็นไปไม่ได้ เช่น ถ้าหากเราทำหนังตีรันฟันแทง ไม่ได้หมายความว่ากรุงเทพฯต้องเต็มไปด้วยอันธพาล

“ข้อจำกัดเหล่านี้ที่โดนเซ็นเซอร์ ทำให้นักคิด ผู้กำกับ คนเก่งๆ ของไทยต้องออกไปหาทางสร้างชื่อเสียงกันที่ต่างประเทศทั้งนั้น ไม่สามารถสร้างชื่อเสียงในประเทศไทยได้ เนื่องจากมีข้อจำกัด” นายจาตุรนต์ชี้

ทั้งนี้ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12-23 ตุลาคมนี้ รวม 12 วัน ณ บริเวณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันจันทร์-วันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. โดยสามารถเดินทางมาบูธมติชน(ด)รามา” บูธ J47 เดินออกจากทางเชื่อม MRT มายังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าประตูฮอลล์ซ้ายมือ เดินตรงมาโซนตรงกลางแล้วเลี้ยวซ้าย เดินมาสุดทาง บูธสำนักพิมพ์มติชน ‘J47’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image