โรม ลั่นไม่ป้องพวกเดียวกันทำผิดเรื่องเพศแน่ รับอยากจบให้เร็ว แต่ต้องฟังความให้รอบด้าน
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีข้อร้องเรียนการคุกคามทางเพศของ ส.ส.พรรคก้าวไกลว่า เรื่องนี้มี 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็น ส.ส. และส่วนที่เป็นสมาชิกพรรค แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ข่าวดี และเป็นเรื่องที่เราก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราในฐานะพรรคการเมืองก็พยายามที่จะแก้ปัญหา พยายามใช้กลไกตรวจสอบ
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรามีสมาชิกพรรคและ ส.ส. อยู่มาก แน่นอนมันอาจจะมีทั้งเรื่องในอดีต และเรื่องในปัจจุบัน ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัว ถูกผิดอย่างไรเราก็คงต้องมีการตรวจสอบ แต่เรายืนยันกับสังคมมาโดยตลอดว่า เราจะไม่ยอม สำหรับพรรคก้าวไกลในเรื่องของทางเพศต่างๆ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ เช่นกัน และจะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องนี้
นายรังสิมันต์กล่าวว่า การตรวจสอบต้องใช้เวลา เราเองก็อยากให้มันเร็วที่สุด แต่เราก็ต้องฟังทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพยานคนหรือเอกสาร เพื่อให้เกิดการรับฟังอย่างรอบด้านมากที่สุด เราอยากจะยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า เรื่องนี้เราให้ความสำคัญ และเราไม่ปล่อยผ่าน เราจะไม่นิ่งเงียบ และเราจะไม่มีการปกป้องซึ่งกันและกัน เราอยู่เคียงข้างในเรื่องของความยุติธรรม
“ผมเชื่อว่าเรื่องคดีเกี่ยวกับเพศ เป็นเรื่องที่มันจะเกิดขึ้นในหลายๆ พรรคการเมือง ในหลายๆ กลุ่มก้อนที่มีอยู่ในสังคม เราเองก็จะพยายามยืนยันว่าการทำของเราแบบนี้มันนำไปสู่การเป็นเยี่ยงอย่างให้กับสังคมในทุกองค์กร ทุกรูปแบบที่มีอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าสังคมจะไม่ปล่อยผ่านในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้แน่นอน แต่ขอเวลานิดหนึ่ง บางทีมันก็ต้องฟังพยานหลักฐานอย่างรอบด้านจริงๆ” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วจะมีการตั้งโต๊ะแถลงเพื่อไขข้อสงสัยให้กับประชาชนหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เข้าใจว่าทางโฆษกของพรรคก็พยายามที่จะอัพเดตในเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องให้เวลากับทางคณะกรรมการวินัยในการทำงาน
“ยืนยันว่าไม่ปล่อยผ่าน ตอนนี้ทางคณะกรรมการวินัยก็พยายามตรวจสอบอย่างเข้มข้นจริงๆ และเราก็จะพยายามสร้างบรรยากาศที่เชื่อมั่น เรามี ส.ส.ที่มีความหลากหลายเข้าไปเป็นคณะกรรมการวินัย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะไม่ปกป้องพวกพ้อง ไม่ช่วยเหลือกัน เราจะอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมและพยานหลักฐานที่มีจริงๆ” นายรังสิมันต์กล่าว
