เลขาฯป.ป.ช. เผย “บิ๊กตู่-วิษณุ” ยื่นทรัพย์สิน หลังพ้นตำแหน่งแล้ว เหลืออีก 12 ราย ส่วน ครม.เศรษฐา กรณีเข้ารับตำแหน่งยังไม่ยื่นบัญชีอีก 9 ราย
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า
สำหรับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ในวันที่ 5 ก.ย.66 ซึ่งมีระยะเวลายื่นภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.66 – 4 พ.ย.66 และสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลา ได้ไม่เกิน 30 วัน ข้อมูล ถึงวันที่ 30 ต.ค.66 มีผู้ยื่นบัญชีมาแล้ว จำนวน 14 ราย อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, ยังไม่ยื่น จำนวน 12 ราย
และได้รับการยกเว้น ตามมาตรา 105 วรรค 4 กรณีถ้าพ้นจากตำแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่ภายในหนึ่งเดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้าดำรงตำแหน่งใหม่แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน จำนวน 6 ราย โดยมีผู้ยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน 1 ราย
นายนิวัติไชยกล่าวว่า สำหรับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลนายเศรษฐา กรณีเข้ารับตำแหน่ง ในวันที่ 5 ก.ย.66 ซึ่งมีระยะเวลายื่นภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.66 – 4 พ.ย.66 และสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลา ได้ไม่เกิน 30 วันนั้น มีผู้ยื่นบัญชีมาแล้ว จำนวน 3 ราย อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม, ยังไม่ยื่น จำนวน 9 ราย ในจำนวนนี้ขอขยายระยะเวลา 1 ราย
ได้รับการยกเว้น ตามมาตรา 105 วรรค 4 จำนวน 7 ราย โดยมีผู้ยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน 2 ราย และได้รับการยกเว้น ตามมาตรา 105 วรรค 5 กรณีถ้าเจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอื่นใดที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วย เจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน จำนวน 15 ราย โดยมีผู้ยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน 2 ราย