ปิยบุตร ไม่สนทัวร์ลง ยันให้ความเห็นต่อ แนะพวกเอาพาดหัว มาถล่มกัน ไม่ทำสังคมก้าวหน้า

ปิยบุตร ไม่สนทัวร์ลง ยืนยันให้ความเห็นต่อ แนะแฟนๆแต่ละพรรค เอาพาดหัว มาถล่มกัน ไม่ทำสังคมก้าวหน้า 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้พสต์ข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ (X) ว่า “ผมให้สัมภาษณ์ กับมติชนทีวี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พูดคุยกันในหลายประเด็น ทั้งกรณีนายกรัฐมนตรี ไม่มาตอบกระทู้ถามของหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ กรณีบทบาทฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกล ฯลฯ

มีทั้งส่วนที่วิจารณ์นายกรัฐมนตรี วิจารณ์รัฐบาล วิจารณ์พรรคเพื่อไทย

มีทั้งส่วนที่วิจารณ์และเสนอแนะพรรคก้าวไกล

Advertisement

หากผู้มีใจเป็นธรรมและฟังจนจบ คิดตรองอย่างมีโยนิโสมนสิการแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า ผมวิจารณ์เสนอแนะทำนองนี้บ่อยๆ และก็วิจารณ์เสนอแนะไปยังทุกฝ่าย ตามคำถามของผู้ดำเนินรายการ

ปรากฏว่า ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองแต่ละพรรค ไม่พอใจกับสิ่งที่ผมแสดงออกมา ท่อนที่ผมวิจารณ์นายกฯ ผู้สนับสนุนเพื่อไทย ก็ไม่พอใจ ท่อนที่ผมวิจารณ์พรรคก้าวไกล ผู้สนับสนุนก้าวไกล ก็ไม่พอใจดุจกัน

หลายคนแทบไม่ได้กดฟัง อ่านแต่พาดหัว
หลายคนกดฟังเฉพาะที่ถูกตัดมาเป็นท่อน
หลายคน เห็นผมวิจารณ์ก้าวไกล ก็ด่าไล่ให้ผมไปเพื่อไทย
หลายคน เห็นผมวิจารณ์เพื่อไทย ก็ด่าว่าผมเป็นตัวจุดกระแสให้สิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “ด้อมส้ม” (ผมไม่เคยใช้คำเหล่านี้)

Advertisement

ปัญหา “ทัวร์ลง” ในยุคนี้ มาจากการไม่ฟังให้จบ อ่านเฉพาะพาดหัวชี้นำ (ทั้งจากสื่อที่ต้องการพาดหัวเพื่อเรียกยอดวิว ทั้งจากผู้สนับสนุนแต่ละพรรคที่ต้องการพาดหัวชี้นำตามที่ตนเองต้องการ) ฟังเฉพาะที่ตัดมาเป็นท่อนๆ

เมื่ออ่านเฉพาะพาดหัวแล้ว พาดหัวก็ตามไปกำหนดจิต กำหนดความคิด เมื่อโลกออนไลน์ โดยเฉพาะแพล็ตฟอร์มแบบเอ็กซ์ ที่ไม่ต้องแสดงตัวตน ใครจะมาก่นด่าบริภาษ อย่างไรก็ได้ เป็นเช่นนี้ ก็ตามไปกำหนดมือให้โพสต์ด่าไว้ก่อน โดยไม่ได้ใส่ใจลงในรายละเอียด เน้นคิดแต่ฝักฝ่าย เราต้องไปถล่มอีกฝักฝ่ายให้ราบ โดยมิได้ดูเนื้อหาทั้งหมด

สังคมเช่นนี้ ไม่นำมาซึ่งปัญญา

ความขัดแย้งในหมู่ประชาชนแบบผู้สนับสนุนพรรคการเมืองจ้องถล่มกันรายวันเช่นนี้ มิใช่ไดอะเล็กติกที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้า

หลังผมไปคิดทบทวนอยู่หลายสัปดาห์ ก็ได้คำตอบว่า ในฐานะปัญญาชน ผมยืนยันว่า ผมจะแสดงความเห็นเช่นนี้ต่อไป แม้จะโดนผู้สนับสนุนของแต่ละฝักฝ่ายไม่พอใจ หรือคัดบางท่อนมาเพื่อหวังผลทางปฏิบัติข่าวสาร ก็ตาม

และจะเริ่มต้นทยอยชี้ให้เห็นถึงปัญหา และผลสืบเนื่องจากความขัดแย้งแบบผู้สนับสนุนสองพรรคตีกันแบบทุกวันนี้ให้มากขึ้น

ปัญญาชนแตกต่างจากนักการเมืองและดารานักแสดง

นักการเมืองและดารานักแสดงจำเป็นต้องคิดคำนึงถึงกระแส ความนิยม หลายครั้งจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้คิด ไม่ได้อยากทำ แต่ต้องทำเพื่อรักษาหรือขยายความนิยม

แต่ปัญญาชนจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นตามจิตสำนึกทางปัญญา สิ่งที่เห็นว่าถูกต้อง วิเคราะห์คาดการณ์สิ่งต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อเห็นสัญญาณไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องกล้าทักท้วงทัดทาน แม้ในที่สุด การแสดงความคิดเห็นเหล่านั้น อาจจะนำมา ซึ่งการเสียความนิยมก็ตาม

แล้วที่สงสัยกันว่า ทำไมผมจ้องวิจารณ์ก้าวไกล ทำไมไม่วิจารณ์เพื่อไทย หรือวิจารณ์ให้หนักกว่าก้าวไกลบ้าง?

คำตอบ คือ ผมมีความหวังกับพรรคก้าวไกลครับ ถ้าเราคาดหวังกับพรรคก้าวไกล เราก็จะยิ่งให้ความสำคัญ ยิ่งวิจารณ์ ยิ่งเสนอแนะ

ส่วนที่ถามว่า ทำไมไม่คุยกันภายใน ?

คำตอบ คือ ผมเป็นคนนอก ไม่มีช่องทางครับ ต่อให้ผมมีช่องทาง คุยภายในได้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลสำเร็จ ตรงกันข้าม หลายเรื่อง ผมวิจารณ์ข้างนอก จนประชาชน ผู้สนับสนุนพรรคเห็นด้วย พรรคก้าวไกลจึงเอาไปคิดทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image