09.00 INDEX ความมั่นใจ ดิจิทัล วอลเล็ต จาก ไทยรักไทย ถึง เพื่อไทย
การออกมาประกาศในเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ไม่ว่าจะมาจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ว่าจะมาจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ทรงความหมายเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
เพราะที่อยู่เบื้องหลังคำประกาศสะท้อนถึงพลังจากพรรคภูมิใจไทย สะท้อนถึงพลังจาก พรรครวมไทยสร้างชาติ
มีน้ำหนักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเสียงจาก “พลังประชารัฐ”
คล้อยหลังคำประกาศ ไม่ว่าจะดังมาจาก พรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะดังมาจาก พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะดังมาจาก พรรคพลังประชารัฐ คือ ความมั่นใจ
เป็นความมั่นใจของรัฐบาล เป็นความมั่นใจของพรรคเพื่อไทย เป็นความมั่นใจที่ นายเศรษฐา ทวีสิน สามารถกระชับอำนาจและเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” อย่างมั่นคง
ผลก็คือ สัมผัสได้ในความเงียบจากบรรดา “ที่ปรึกษา” นายกรัฐมนตรี สัมผัสได้ในความสงบจากรัฐมนตรี “ช่วยว่าการ” กระทรวงการคลัง สัมผัสได้ในความเยือกเย็นภายในพรรคเพื่อไทย
รูปธรรมอันเฉียบขาดอย่างยิ่งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน คือ รายละเอียดทั้งหมดจะปรากฏก่อนวันที่ 12 พฤศจิกายน
นี่คือ การรวมศูนย์อำนาจ นี่คือการรวมศูนย์การตัดสินใจ
ต้องยอมรับว่านโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นนโยบาย “เรือธง” ของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2566
บนฐานแห่งการสร้างความมั่นใจภายใต้สโลแกนที่ว่า “พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น”
หากไม่คิดใหญ่คงไม่มุ่งมั่นที่จะแจกเงินแก่ทุกคนที่อายุ 16 ปี หากไม่คิดใหญ่คงไม่กำหนดกรอบให้กับทุกคนซึ่งเท่ากับครอบคลุมจำนวนประชากร 56 ล้านคนทั่วประเทศ
แม้จะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 560,000 ล้านบาท พรรคเพื่อไทยก็มีความมั่นใจเพราะเคยผ่านประสบการณ์และมีความจัดเจนมาแล้วจากยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
ความสงสัยที่ว่าจะหาเงิน 560,000 ล้านบาทมาจากไหนจึงไม่ต่างอะไรกับการสบประมาทภูมิปัญญาของพรรคเพื่อไทย
ท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ท่าทีของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
เพราะล้วนเป็นฐานกำลังทางการเมืองของ “รัฐบาลพิเศษ”
เพราะเท่ากับเป็นรูปธรรมถึงความมั่นใจของพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยให้กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน อย่างไรก็ให้กับพรรคเพื่อไทยเช่นนั้น ไม่ว่า นายกรัฐมนตรีจะชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน
