‘อนุทิน’ ลุยจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมนั่งประธานคณะทำงานเอง ดึง ‘บิ๊กต่อ’ ร่วมทีม 

‘อนุทิน’ ลุยจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมนั่งประธานคณะทำงานเอง ดึง ‘บิ๊กต่อ’ ร่วมทีม 

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมผู้บริหาร มท. โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้คิกออฟปฏิบัติการพิเศษตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีว่าการและท่านอธิบดีกรมการปกครอง ได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อจัดระเบียบสังคม

“จะมีการตั้งคณะทำงานร่วม มท.กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และปลัดกระทรวงมหาดไทยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นรองประธาน อธิบดีกรมการปกครองเป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อบูรณาการการทำงานจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอยืนยันว่าผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานไม่มีความขัดแย้งต่อกัน มีแต่ความร่วมมือกันที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม นอกจากการจัดระเบียบสังคมและปราบผู้มีอิทธิพล” นายอนุทินกล่าว

ที่ลานหน้าอาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กรณีจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด และรถยนต์ 2 คัน โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 และ พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมให้ข้อมูล

Advertisement

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คดีดังกล่าวมียาเสพติดจำนวนมากถึง 5 ล้านเม็ด ยืนยันว่ายาบ้าทั้งหมดมีแหล่งผลิตอยู่ตามตะเข็บชายแดน ทำให้มีการลักลอบนำเข้ามาจำนวนมาก ไม่สามารถดำเนินการปราบปรามได้เอง ทำได้เพียงประสานขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ด้วยการประสานกำลังของทุกภาคส่วน ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ ทำให้การสกัดกั้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ยาเสพติดหมดไปภายใน 1 ปี โดยเฉพาะการสกัดกั้นช่องทาง 11 อำเภอในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ที่เป็นเส้นทางลำเลียงผ่านเข้ามา เพื่อกระจายในภาคเหนือ 55% และภาคอีสาน 45% ทางด้าน จ.มุกดาหาร ซึ่งจะเห็นได้ว่าการจับกุมทำได้ดีมากขึ้นเฉลี่ย 2-3 เท่า

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในปีนี้จะเข้มข้นมากขึ้นไปอีก ผ่านการบูรณาการของทุกภาคส่วน ทั้งการปราบปรามและยึดทรัพย์ รวมทั้งการนำผู้เสพเยาวชนที่ป่วยถึงขั้นจิตเวชกว่า 32,000 คน เข้ารับการรักษาบำบัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image