09.00 INDEX: คำถาม ‘พิธา’ จับตา ‘ก้าวไกล’ คำตอบ จาก 15 พฤศจิกายน
เหตุปัจจัยใดทำให้บทบาท ”ศาลรัฐธรรมนูญ” ในวันที่ 15 พฤศจิกายน จึงได้รับการจับตามองอย่างเป็นพิเศษ
1 เพราะพรรคก้าวไกล 1 เพราะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ทุกคนล้วนต้องการคำตอบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรในกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกร้องว่าถือหุ้นไอทีวี
ทุกคนล้วนต้องการคำตอบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรในกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
คำถามก็คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะผิดหรือไม่ และจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเหมือนกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือไม่
คำถามก็คือ การที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายในการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะส่งผลความต้องการในการล้มล้างการปกครองหรือไม่
ความเร้าใจเป็นอย่างยิ่งมิได้อยู่ที่พรรคก้าวไกล มิได้อยู่ที่เป็นเรื่องของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อย่างเดียว
หากแต่อยู่ที่การคาดการณ์จาก ”สังคม” ที่ค่อนข้างร้อนแรง
ความเป็นปกติอย่างหนึ่งของการคาดการณ์ก็คือ จำนวนไม่น้อยประเมินว่า แนวโน้มของพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นอย่างพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
การมองเห็นว่าเป็นเรื่องปกติเพราะได้บทเรียนจากอดีต ได้บทเรียนจากพรรคไทยรักไทย ได้บทเรียนจากพรรคอนาคตใหม่
กระนั้น ความน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากก็คือ จะมีการขยายขอบเขตในการจัดการกับพรรคก้าวไกลนอกเหนือจากกรรมการบริหารไปถึงเหล่า ส.ส. 150 กว่าคนหรือไม่
และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะหนักหนาสาหัสเหมือนกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือว่าทะยานไปอยู่ในจุดเดียวกันกับของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช
ยิ่งกว่านั้น เหล่า ส.ส. 150 กว่าคนของพรรคก้าวไกลในส่วนที่มิใช่กรรมการบริหารจะจัดการกับ ”อนาคต” ของตนไปในทิศทางใด
ถามว่าเหตุใดการคาดการณ์ในทางการเมืองที่ปรากฏขึ้นในสังคมจึงค่อนข้างรุนแรงแข็งกร้าวเมื่อเทียบกับกรณีของพรรคไทยรักไทย และเมื่อเทียบกับกรณีของพรรคอนาคตใหม่
นี่ย่อมมาจากการอ่านสถานการณ์ที่ปรากฏเมื่อ 22 สิงหาคม
นั่นก็คือมีการสังเคราะห์ออกมาว่าสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ไม่ว่าที่ดอนเมือง ไม่ว่าที่เกียกกาย ยืนยันถึงรูปธรรมแห่งการประนอมอำนาจเพื่อจัดสมดุลใหม่ในทางการเมือง
บนสถานการณ์และพื้นฐานความคิดเช่นนี้ย่อมตกกระทบต่อทิศทางของพรรคก้าวไกลรุนแรงและล้ำลึกมากยิ่งกว่าในอดีต