‘ภูมิธรรม’ ชี้ รบ.ต่างพรรค แต่เป็นเอกภาพ ขอ เอกชนสบายใจร่วมเดินหน้าไปด้วยกัน

‘ภูมิธรรม’ เล็งปลดล็อก 4 กฎเหล็ก ธ.ค.นี้ เอื้อการค้า-ลงทุน ตอบโจทย์โลกยุคใหม่

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “พาณิชย์ยุคใหม่ การค้าไทยเชื่อมโลก” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ว่าหอการค้าไทยมีส่วนร่วมเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีประสบการณ์ในการฟื้นเศรษฐกิจให้เดินหน้า โดยรัฐจะเป็นผู้สนับสนุนและเอื้ออำนวยให้ไปถึงจุดหมาย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีภารกิจในการส่งเสริมการค้า การลงทุน พัฒนาผู้ประกอบการและดูแลผู้บริโภค ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน

“พาณิชย์ยุคใหม่ที่จะเชื่อมโลกในวันนี้ต้องมุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยในเวทีโลก ต้องคำนึงกติกาการค้าของโลกยุคใหม่ซึ่งให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยกรีนอีโคโนมี” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า การจะขับเคลื่อนให้การค้าพาณิชย์ของประเทศไทยให้เชื่อมกับโลกได้จำเป็นต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพราะวันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปมาก การค้ายุคใหม่ต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็ว ความรู้ คู่ไปกับสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในโลกจะทำให้ประเทศเราแข็งแรง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะตั้งทีมกระทรวงพาณิชย์ให้เกิดความเข้มแข็ง เดินตามรัฐบาลที่จะสร้างทีมไทยแลนด์

Advertisement

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มี 3 เสาหลักขับเคลื่อนพาณิชย์ยุคใหม่ ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจ การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อ และการปรับปรุงกฎระเบียบให้อำนวยความสะดวก สิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้า ทั้งกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ รัฐบาลก็พร้อมจะแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย อำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางธุรกิจ และต้องกล้าคิดนอกกรอบในแบบเดิมๆ

“เดือนธันวาคมนี้จะสามารถประกาศแก้ไขกฎหมายและพระราชบัญญัติได้อย่างน้อย 4 ฉบับที่เป็นปัญหาได้ รอให้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อสนองตอบการทำงานของเอกชน อะไรที่อยู่ในอำนาจรัฐมนตรีเราจะแก้ รวมถึงต้องแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ของกระทรวงให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เป็นบิ๊กดาต้าให้เกิดการเชื่อมโยงกัน” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า นอกจากนี้จะเร่งผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) รวมทั้งการปรับตัวเพื่อรองรับ และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในมาตรฐานความยั่งยืนที่เป็นกรอบกติกาใหม่ของโลก ปัจจุบันประเทศไทยมี FTA อยู่แล้ว 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ และเร่งเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าใหม่เพิ่มเติม โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนมูลค่าการค้ากับคู่ภาคี FTA จากปัจจุบัน 61% เป็น 80% ในปี 2570 ให้ได้

Advertisement

นายภูมิธรรมกล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นเซลส์แมน เดินทางเยือนต่างประเทศ เช่น จีน อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง เป็นการสร้างความสัมพันธ์ เรียกความเชื่อมั่นทางการค้า อยากให้ข้าราชการทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช้ธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ลู่ทางการค้าและประโยชน์ให้เอกชนไปสานต่อได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์คิดว่าอย่าปล่อยให้นายกรัฐมนตรีทำคนเดียว ต้องทำงานสนับสนุนกัน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด โดยการสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการจะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเพื่อสานความสัมพันธ์ที่มั่นคงขึ้นในอนาคต และจากผลการเดินทางของนายกรัฐมนตรี ทำให้ดึง 3 บริษัทมาลงทุนได้ 3 แสนล้านบาท

นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันที่ 21 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีจะมีการเชิญ 4 ทหารเสือมาคุยหารือกับภาคเอกชน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสภาต่างๆ จากภาคเอกชน ถึงปัญหาและอุปสรรค จะปักหมุดพาณิชย์ยุคใหม่วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เราต้องเปลี่ยนรัฐอุปสรรคเป็นรัฐสนับสนุน ซึ่งต้องทำอย่างจริงจัง ทุกกระทรวงต้องนำสิ่งเหล่านี้ไปคิดและดำเนินการ

“แม้รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลต่างพรรค แต่มีความเป็นเอกภาพ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ยากลำบาก ทุกอย่างพึ่งพากันได้ ร่วมกันได้ ขอให้ภาคเอกชนสบายใจได้และเราอยากเดินหน้าทำทีมไทยแลนด์และทีมพาณิชย์ให้ประสบความสำเร็จให้ได้และเดินหน้าไปพร้อมกับเอกชน” นายภูมิธรรมกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image