‘ชัยชนะ’ ซัด ‘เศรษฐา’ หลังเตรียมออก พ.ร.บ.เงินกู้ แจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ลั่นไม่ให้ผ่านสภาแน่ พร้อมเรียกร้อง ส.ส.โหวตไม่เห็นด้วย
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองเลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ตอนนี้ยังมีข้อถกเถียงเรื่องที่รัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ ว่า ต้องยอมรับว่าตอนนี้ประเทศไทยเป็นหนี้สาธารณะ 11 ล้านล้านบาท เฉพาะหนี้ของรัฐบาล 9.7 ล้านล้านบาท รัฐวิสาหกิจอีก 1.7 ล้านล้านบาท วันนี้ทั้งนักวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมายืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่จะกู้เงิน เพราะประเทศยังไม่ถึงวิกฤต นี่เป็นการกู้มาเพื่อสนองนโยบายพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งต่างการกู้เงินในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กู้มาแจกให้กับประชาชน เป็นช่วงวิกฤตโควิด และต้องยอมรับว่าเกิดวิกฤตจริงๆ แต่วันนี้ประเทศไม่ได้เกิดวิกฤตแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกู้เงิน 500,000 ล้านบาท มาทำเรื่องนี้ และตอนนี้ พ.ร.บ.เงินกู้ ก็มีคนไปยื่นร้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินถึง 5 คน เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และ พ.ร.บ.วินัยงานเงินการคลังข้อที่ 53
“เรื่องนี้ถ้านายกรัฐมนตรียังดื้อที่จะนำเสนอเรื่องนี้เข้าสภา แล้วโยนบาปให้ ส.ส.ในวันที่สภาไม่ผ่านร่างให้ ผมว่านายกฯไร้วุฒิภาวะ ไม่มีวุฒิภาวะในการทำงาน ดังนั้น ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูด วันที่ประกาศหาเสียงบอกว่าจะไม่กู้เงิน จะหารายได้มาแจกพี่น้องประชาชน วันนี้เวลาผ่านไปแค่ 70 วัน กลับบอกว่ากู้เงิน 500,000 ล้านบาท นี่ผมไม่เห็นด้วย” นายชัยชนะกล่าว
นายชัยชนะกล่าวว่า วันนี้การแก้ไขปัญหาปากท้องเศรษฐกิจต้องแก้อย่างยั่งยืน แต่การกู้เงินมาแจกก็ได้สอนให้ประชาชนมีพฤติกรรมนั่งรอรับเงินจากรัฐบาล สมัย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ใช้เงินขนาดนี้ ใช้แค่ 30,000 ล้านบาท แต่นี่ 500,000 ล้านบาท แล้วต้องให้เงินคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป จึงฝากถามนายกฯ ว่าเงินที่จะกู้ กู้แล้วเอาเงินที่ไหนมาคืน ภาระหนี้นี้ตกถึงลูกหลานหรือไม่ ขณะนี้หนี้รวมที่เรามี 11 ล้านล้าน จากทั้งหมด 17 ล้านล้าน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพดานหนี้ 61% ถ้ากู้มาอีก 500,000 ล้านบาทขึ้นเป็น 64% เพดานเราอยู่ที่ 70% ตนผิดหวังนายกฯ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่พอบริหารประเทศคิดให้ตัวเองดูดีหล่อ แต่เอาเงินกู้มาแจกประชาชนตนว่าผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นระเบิดเวลาให้เปลี่ยนตัวนายกฯคนใหม่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ระเบิดเวลาหรือไม่ระเบิดเวลา ไม่ทราบ แต่ถ้านายกฯยังยืนยันที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ เมื่อผ่านสภาก็ต้องมีคนยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่านายกฯ นอกจากไม่ทำงานยังทำร้ายตัวเองทุกวัน อุปสรรคมากมายที่เข้ามาในรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ คือ ต้องตั้งสติว่าอะไรควรทำ เรื่องที่ 1, 2, 3 และสิ่งที่ประกาศกับประชาชนไว้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องพยายามหาทางทำ และเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องมองให้ลึกลงไปอีกว่ากู้มาใช้ค่าเงินอะไร เกิดกลับไปใช้ค่าเงินที่เป็นคริปโท หรือบิตคอยน์ มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด
“ตนเป็นคนหนึ่งในสภา ที่จะไม่ให้ผ่าน พ.ร.บ.เงินกู้ และขอเรียกร้องไปถึง ส.ส.ทุกคนว่าถ้า พ.ร.บเงินกู้นี้ เข้าสภามาต้องโหวตไม่เห็นด้วย เพื่อไม่สร้างภาระหนี้ให้กับประเทศมากกว่านี้ ยืนยันเราไม่ได้ขัดขวางในการที่ประชาชนจะได้เงิน แต่วิธีการที่จะได้เงินนายกฯต้องทำตามคำพูด คือไม่กู้เงิน และหาเงินมาจ่ายให้กับประชาชน ฉะนั้นงบประมาณปี 2567 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท นายกฯ ไม่สามารถแทรกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้” นายชัยชนะกล่าว