พิธา ลุยขอนแก่น เสวนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ยกต้องเต เป็นตัวอย่าง

“พิธา” ควง ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล เสวนาพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ชู “ต้องเต” เป็นตัวอย่างคนอีสานรุ่นใหม่

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนบ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล นายอิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคก้าวไกล ร่วมพบผู้ประกอบการหมอลำอีสาน และร่วมเสวนา หัวข้อ “การพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ โดยมีศิลปินหมอลำและเครื่อข่ายศิลปะวัฒนธรรมภาคอีสานเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงเสวนา ท่ามกลางบรรดาชาวบ้าน ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้สูงวัยที่เป็นแฟนคลับของนายพิธาและพรรคก้าวไกล ต่างพากันสวมเสื้อสีส้มสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมรับฟังการเสวนาและให้กำลังใจจำนวนมาก โดยวงเสวนาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้ใช้เวลาแลกเปลี่ยนกันความคิดเห็นกันประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นลง

จากนั้น นายพิธา พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินทางไปที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มี “สิม” หรือพระอุโบสถ อายุร้อยกว่าปี ลักษณะเป็นสิมแบบพื้นบ้านอีสานที่มีจิตรกรรมฝาผนัง หรือฮูปแต้ม บอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี โดยได้ร่วมแห่ต้นกฐินสามัคคีร่วมกับชาวบ้านรอบสิมอีสาน จำนวน 3 รอบ ก่อนที่ผู้นำชุมชนจะพานายพิธา และคณะ เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปภายในสิมอีสานเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสิมอีสานแห่งนี้ให้นายพิธา และคณะ ได้รับทราบ

Advertisement

นายพิธาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงภาพรวมในการลงพื้นที่มาที่จังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้ว่า การลงมาพบปะพี่น้องชาวขอนแก่นในครั้งนี้ สิ่งที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดในนามของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้วนๆ เช่น หมอลำ ซึ่งจะนำไปต่อยอดความคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้หมอลำอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้ โดยยังคงความเป็นอีสานไว้ โดยในวงเสวนาก็ได้ยกตัวอย่างตนเองที่รู้จักหมอลำในนามของคนกรุง ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้รู้จักหมอลำเหมือนที่คนอีสานรู้จักและเข้าใจ ซึ่งตนเองได้รู้จักหมอลำที่เป็นของชาวอีสานที่ไปโด่งดังในต่างประเทศ ที่งานบางกอก พาราไดซ์ และจากร้านสตูดิโอแลม และสุดแรงม้า เรคคอร์ด ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 51 ใกล้บ้านของตนเอง จึงมองเห็นโอกาสที่จะพัฒนา เพราะที่ผ่านมามีภาคเอกชนที่จะนำเอาหมอลำไปแสดงที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศโปรแลนด์ มีคนมาชมกว่า 3 แสนคน ดังนั้นเราจึงต้องผลักดันเรื่องเหล่านี้ ทั้งหมอลำ อาหาร และวัฒนธรรมต่างๆ ที่เป็นของคนอีสาน

Advertisement

นายพิธากล่าวอีกว่า อยากให้คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในภาคอีสานช่วยกันรักษาและพัฒนาสิ่งต่างๆ ที่เป็นวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสาน เพราะจากข้อเท็จจริงที่ได้ศึกษามาจากสื่อสาธารณะช่องหนึ่ง ระบุว่า แรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 52 เปอร์เซ็นต์ แต่คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น สื่อมวลชน อุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือศิลปะ เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุน้อยๆ ซึ่งมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ จึงคิดการที่เราจะส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ไปข้างหน้าได้ ก็ต้องคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับแรงงานคน รวมทั้งเรื่องสิทธิ สวัสดิการของคนที่จะเข้ามาอยู่ในวงการนี้ด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่การมาสนับสนุนในวันที่เขาประสงความสำเร็จแล้ว วันนี้มองว่าตนเองจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะพรรคก้าวไกลทำงานทางการเมืองก็เพื่อให้งบประมาณของบ้านเมืองไปที่ศักยภาพของความเป็นอีสานในการยกระดับ ที่ไม่ใช่เรื่องการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการใช้สมอง สองมือ และหัวใจด้วย และคำว่าจะพัฒนาอย่างไม่ประนีประนอม ก็หมายความว่า ยกตัวอย่างอย่างภาพยนตร์ของ “ต้องเต” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” เป็นสิ่งที่แสดงออกได้ชัดแล้วว่า สามารถนำเสนอความเป็นอีสานอย่างที่คนอีสานอยากดู ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเพื่อให้คนกรุงหรือชนชั้นกลางอยากดู แต่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่น้องชาวอีสาน ซึ่งรากวัฒนธรรมล้วนมาจากสามัญชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image