ชัยธวัช ยืนยัน ‘ธนาธร-แกนนำอนาคตใหม่’ สละสิทธินิรโทษคดี 112 ย้ำร่าง กม.ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

ชัยธวัช ยืนยัน ธนาธร-แกนนำ อนค.โดน 112 ยื่นสละสิทธินิรโทษกรรม ย้ำร่าง กม.มีประโยชน์ทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมพูดคุยกับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการชื่อดัง ทางรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ถึงร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล ความตอนหนึ่งว่า หากดูสถานการณ์ความเป็นจริง คดีช่วง 3 ปีหลัง คดีที่สร้างความรู้สึกไม่พอใจทางการเมืองอย่างรุนแรงคือคดี ม.112 ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเยาวชน ขณะที่คดีที่เหลืออยู่ อาทิ เสื้อแดง หรือที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมน้อยมาก ดังนั้น ถ้าไม่นำไปผนวกกันก็เหมือนอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นปัญหาอย่างมีนัยสำคัญก็ไม่เข้าสู่กระบวนการด้วย ซึ่งมีนัยสำคัญกับความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน

นายชัยธวัชกล่าวว่า คิดว่าควรจะรวมอยู่ด้วย เพียงแต่มีคนไม่เห็นด้วย จึงต้องเดินหน้าคุยกับผู้เห็นไม่ตรงกันเพื่อจะรู้ว่าถ้าจะสร้างความยอมรับต้องทำอะไรบ้าง ถึงบอกว่าถ้าทำสำเร็จไม่ใช่การคุยกับคนเห็นตรงกัน ต้องยิ่งคุยกับคนเห็นไม่ตรงกันมากกว่าคุยกับคนเห็นตรงกัน ในอนาคตถ้าผมเริ่มได้คำตอบจากหลายฝ่ายแล้ว ยังอยากคุยกับฝ่ายความมั่นคงด้วยซ้ำ ซึ่งเรามีเวลาอยู่ ก่อนจะมีการพิจารณา ซึ่งปัจจุบันเสนอร่าง กม.ไปแล้ว อยู่ระหว่างรับฟังความเห็น

“ถ้าเราได้ความเห็นร่วมกับฝ่ายการเมืองต่างๆ ที่เคยขัดแย้ง หรือเห็นไม่ตรงกัน ถ้าได้ข้อสรุปร่วมจริงจะเป็นเงื่อนไขที่ดีที่จะนำไปคุยกับพรรคต่างๆ โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาลว่ามีความเห็นตรงกันแบบนี้แล้ว เพื่อจะเสนอให้รัฐบาลเสนอร่างกฎหมายนิรโทษเข้ามาประกบกับก้าวไกล จะได้มาพิจารณาร่วมกัน แต่มันยาก” นายชัยธวัชกล่าว

Advertisement

นายสรยุทธถามว่า มีคนบอกว่าก้าวไกลหยิบเรื่องนี้มา จะเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งใหม่ในสังคม?

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ถึงต้องคุย ทำความเข้าใจ การนิรโทษในสถานการณ์ปัจจุบันถ้าเราปฏิเสธคดีนักโทษทางความคิดก็ไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบัน คนที่ได้รับประโยชน์แน่นอนอาจเป็นเสื้อเหลือง-แดงในอดีต แม้คดีอาจจบแล้ว รับโทษแล้ว แต่ก็ลบความผิดตัวเองไป แต่ไม่ได้แก้ปัญหากลุ่มปัจจุบัน มันเป็นช้างที่อยู่ในห้อง เราบอกว่าช้างไม่มีอยู่ แต่ไปแก้ปัญหาอื่นก่อนก็คงไม่ใช่

นายสรยุทธถามว่า ทำเพื่อพวกพ้องตัวเอง?

Advertisement

นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องยืนยันว่าถ้าดูเนื้อหาสาระ คนที่ได้ประโยชน์คือทุกฝ่าย ไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่มีใครที่ได้ประโยชน์เพียงคนใดคนหนึ่งด้วย เราต้องการคืนความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน อย่างที่คุณอนุสรณ์ (อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) บอก เราไม่ปรารถนาจะเห็นคนใดคนหนึ่งได้รับความยุติธรรมอยู่คนเดียว

นายสรยุทธระบุว่า แต่บังเอิญว่ากลุ่มเยาวชน หรือกลุ่มรุ่นใหม่ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองปี 2563 2564 2565 อาจสนับสนุนก้าวไกลอาจมองอย่างนั้น อาจรวมถึง ส.ส.พรรคก้าวไกลก็มีคดี 112 หลายคน

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า แต่ (ส.ส.) โดนก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ต้องทรีตเขาเป็นประชาชนคนหนึ่ง จริงๆ แล้วหลายคนอาจหมายถึง แกนนำพรรค เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่โดนคดี ม.112 ซึ่งวันก่อนไปเจอพุทธะอิสระแกก็ถามเรื่องนี้ ผมก็ตอบว่าในร่างกฎหมายเรามีอยู่ช่องหนึ่งด้วยที่ใครก็ตามที่ไม่ประสงค์รับสิทธิพิจารณานิรโทษสามารถยื่นเรื่องต่อกรรมการที่เราตั้งได้เป็นการส่วนตัว ยืนยันกับพุทธะอิสระ เชื่อว่านายธนาธรจะมายื่น ไม่ขอรับการพิจารณาเรื่องนี้

“เรามีการแลกเปลี่ยนกับคุณธนาธรและแกนนำพรรคอนาคตใหม่ที่โดนคดีทางการเมืองว่าถ้าเราเสนอเรื่องนี้ เจตนาของเราคืออยากให้มีผลกับประชาชนที่ขัดแย้งกันอยู่ ไม่ได้หวังว่าจะมานิรโทษคุณธนาธรและแกนนำอนาคตใหม่ แต่อาจถูกหยิบยกมาโจมตีได้ ดังนั้น เราคิดเลยว่าต้องมีสิ่งนี้

เราเคยแลกเปลี่ยนกันอยู่ และเชื่อว่าคุณธนาธรและแกนนำอนาคตใหม่ที่โดนคดีการเมืองจะมายื่นขอไม่ใช้สิทธิ หรือสละสิทธิเพื่อเข้าสู่การพิจารณานิรโทษกรรม ผมก็คุยกับพุทธอิสระว่าเชื่อว่าคุณธนาธรจะไม่ขอรับสิทธินี้ ท่านยังตั้งคำถามว่ากล้าหาญขนาดนั้นเชียวเหรอ” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ

นายสรยุทธถามย้ำว่า เชื่อว่านายธนาธรและแกนนำที่โดนคดี ม.112 จะสละสิทธิ เพราะร่างที่ก้าวไกลเสนอเปิดช่องว่าใครที่อยู่ในข่ายไม่รับสิทธิก็แจ้งความประสงค์ได้?

นายชัยธวัชกล่าวว่า เมื่อคืนเจอนายธนาธรที่งานศพพ่อคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก็ยังถามว่าเรื่องนี้ยืนยันนะว่าจะไม่ใช้สิทธิ เขาก็โอเค เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าจะถูกถามเรื่องนี้

นายสรยุทธระบุว่า ที่บอกว่าจุดชนวนความขัดแย้ง คุณบอกว่าก็มาคุยกันแล้วรับฟัง?

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ใช่ แล้วมองอีกด้านหนึ่ง ถ้าไม่ทำอะไรเลย ถ้าคงไว้สภาพปัจจุบันมันไม่ใช่หนทางยุติ หรือกดให้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้น แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็จะกดไว้ และจะไประเบิดเป็นความขัดแย้งในอนาคต ดังนั้น คิดว่าเราปรารถนาตรงกันที่จะไม่อยากเห็นความขัดแย้งเหมือน 18 ปีที่ผ่านมาอีก

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวอีกว่า เราเห็นตรงกันว่าไม่อยากหวนกลับไปให้มีเหตุการณ์แบบเดิมๆ อีก เพียงแต่เราอาจเห็นต่างว่าวิธีการแบบไหนถูกต้อง ขณะที่เราเชื่อว่าการเปิดรูระบายแล้วหากระบวนการทางประชาธิปไตย หาพื้นที่ปลอดภัยมาปรับจูนความเข้าใจกัน จะนำไปสู่ตรงนั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image