ปชป. น้อมรำลึกวันรัฐธรรมนูญ ย้ำจุดยืนแก้ รธน.ต้องนำไปสู่ ปชต.ที่สมบูรณ์

ปชป. น้อมรำลึกวันรัฐธรรมนูญ ย้ำจุดยืนแก้ รธน.ต้องนำไปสู่ ปชต.ที่สมบูรณ์

ประชาธิปัตย์ น้อมรำลึก วันรัฐธรรมนูญ ย้ำจุดยืนแก้ รธน.ต้องนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ย้อนนายกฯ ขอทุกฝ่ายพร้อมผลักดันยกเว้นรัฐบาลหรือไม่

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอร่วมระลึกถึงการมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกของประเทศไทย เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนชาวไทย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 ดังนั้น ในวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี ถือว่ามีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์

“ในส่วนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน การระลึกถึงวันสำคัญก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่า สิ่งสำคัญที่มีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันคือการผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง”

Advertisement

นายราเมศกล่าวต่อว่า ขณะนี้อุปสรรคในการขอแก้รัฐธรรมนูญยังมีอยู่ จึงทำให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จสู่เป้าหมายได้ พรรคประชาธิปัตย์นั้น มีเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งหัวใจสำคัญของการนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น คือการแก้มาตรา 256 เพื่อให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น

โดยตัดสัดส่วนของ ส.ว.ให้เหมาะสม แล้วใช้เสียงส่วนใหญ่จากสภา เพราะหากกำหนดให้ ส.ว. เห็นชอบด้วยในวาระที่ 1 และที่ 3 เป็นจำนวน 1 ใน 3 ทำให้ต้องได้รับความเห็นชอบเป็นจำนวนมากถึง 84 คน จึงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในสาระสำคัญได้ ดังนั้น การแก้มาตรา 256 จึงมีความสำคัญมาก ซึ่งพรรคหลักการยังเป็นเช่นเดิม และมีหลักการชัดว่าไม่ว่าจะมีการยกร่างใหม่ หรือแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า ความจริงรัฐธรรมนูญฉบับนี้นอกจากสิทธิของประชาชนลดน้อยถอยลงแล้ว ที่กล่าวอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงก็ไม่เป็นความจริง เพราะกระบวนการที่เป็นหลักการพื้นฐานในการป้องกันการทุจริตไม่ได้มีหลักประกันไว้ในรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด พรรคประชาธิปัตย์ได้มองเห็นถึงปัญหาเหล่านี้มานาน ตั้งแต่รัฐธรรมนูญยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงเป็นที่มาที่พรรคไม่ได้รับรัฐธรรมนูญฉบับปี 60

Advertisement

“แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวผ่านการลงประชามติ บังคับใช้เป็นรัฐธรรมนูญ พรรคก็ยอมรับกติกา และตั้งความหวังว่าจะมีการแก้ไขในวันข้างหน้า โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิของประชาชน สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิในที่ดินทำกิน การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นการป้องกันและปราบปรามทุจริตจะต้องมีกระบวนการที่ป้องกันการทุจริตจริงๆ ไม่ใช่เปิดช่องให้สมยอมกัน รวมถึงประเด็นอำนาจ ส.ว.ด้วย ซึ่งทุกเรื่องล้วนเป็นสาระสำคัญที่จะต้องมีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในการตั้งต้นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ”

นายราเมศกล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้น ก็ต้องย้อนถามนายกรัฐมนตรีว่า ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันนั้นความหมายคือ ยกเว้นรัฐบาลที่ยังไม่พร้อมใช่หรือไม่ เพราะคำพูดล้วนแล้วแต่สวนทางกับข้อเท็จจริงที่ประชาชนมองออกมาว่ารัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจต่อกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image