นิกร เผยคืบหน้าประชามติ นัดคุยสถานทูตสวิตพรุ่งนี้ ปัดถ่วงเวลา ชี้ปัญหาซับซ้อน

นิกร เผยคืบหน้าประชามติ นัดคุยสถานทูตสวิตพรุ่งนี้ ปัดถ่วงเวลา ชี้ปัญหาซับซ้อน

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ จัดกิจกรรม PRIDI Talks #23 x PBIC : รื้อ ร่าง สร้าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อประชาชน โดยมี วิทยากร ได้แก่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล, รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร. นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ม.เกริก, นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ, รศ.ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดี พนมยงค์ กล่าวนำ และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผอ. โครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ดำเนินรายการ

ในตอนหนึ่ง นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ กล่าวว่า ตนเป็นนักรัฐศาสตร์ จึงมองว่ารัฐธรรมนูญสำคัญมาก เป็นมากกว่ากฎหมาย เป็นตัวกำหนดโครงสร้างของประเทศ รวมถึงกลไกต่างๆ ว่าจะเป็นอย่างไร

Advertisement

“สำหรับผม รัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ไม่มี จึงต้องสามารถแก้ไขได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น เพราะโลกหมุนเร็ว รัฐธรรมนูญควรมีที่มาจากประชาชน

ผมอยู่กับรัฐธรรมนูญ 40 เป็นที่ปรึกษาของท่านบรรหาร ศิลปอาชา สาเหตุที่รัฐธรรมนูญฉบับปี’40 สำเร็จ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีธง แค่อยากให้มาจากประชาชน มีการฟังความเห็นประชาชน ตอนนั้น ส.ส.ร.มี 100 คน มีนักวิชาการส่วนหนึ่ง มีท่านอุทัย พิมพ์ใจชน ร่วมด้วย ก็ประสบความสำเร็จ เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุด มีคำหนึ่งคือท่านบรรหารบอกว่าเอาแค่นี้นะ แล้วค่อยไปแก้กัน ปรากฏว่าเราไม่แก้ พอไม่แก้เลยกลายเป็นว่าอำนาจที่เราให้ฝ่ายการเมืองมากเกินเหตุ สุดท้ายถูกยึดอำนาจ แสดงว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา” นายนิกรกล่าว

นายนิกรกล่าวว่า สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ตนไม่เห็นด้วย และโหวตไม่รับ เพราะเห็นว่าไม่เป็นประชาธิปไตยเลย วันแรกที่มีการประกาศใช้ ในใจคิดว่า ‘ต้องแก้’

Advertisement

“สารัตถะสำคัญคือต้องแก้ให้มาจากประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการยึดอำนาจ มีปัญหาในตัวมันเอง ความขัดแย้งไม่มีวันหาย ต้องทำให้รัฐธรรรมนูญกลับไปเป็นของประชาชน

รัฐบาลชุดนี้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คนหาว่าถ่วงเวลา ที่จริงแล้วมีปัญหาซับซ้อน ถลำไปปั๊บ ร่วงแน่ๆ ถ้าไปศึกษาดูจะรู้ว่ามีกลไกล็อกหลายชั้นมาก จากคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญบ้าง จากคำวินิจฉัยบ้าง เจอกับดักตลอดทาง

ในทางการเมือง รัฐบาลพูดไว้เป็นนโยบายสำคัญว่าจะให้มีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน โดยไม่มีการแก้ไขหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

กลไกคือใช้เวลากำหนดถึงสิ้นปี เดือนนี้เดือนสุดท้าย แตกออกเป็น 2 คณะ คณะหนึ่งคือคณะของตน ออกไปรับฟังความคิดเห็น คณะที่ 2 เคาะเรื่องการทำประชามติว่ากี่ครั้งกันแน่ จนบัดนี้ยังไม่มีข้อสรุป เพราะเกี่ยวเนื่องกับข้อกฎหมายรวมถึงการเมืองด้วย

เรื่องการรับฟังความเห็นตอนนี้ ผมเรียนว่ารับฟังไปหมดแล้ว เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ไปสงขลา ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ไปแล้ว ครบ กลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ ฟังแล้ว เชิญไปที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชน 15 กลุ่ม เชิญไปที่ตึกสันติไมตรี คุยแล้ว ได้ข้อสรุปแล้ว พรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยคือพรรคก้าวไกล ผมก็ไปเยี่ยมที่พรรค รับฟังความเห็นมาแล้ว” นายนิกรกล่าว

นายนิกรกล่าวว่า กลุ่มสำคัญตอนนี้ที่ยังไม่ได้คำตอบคือสมาชิกรัฐสภา วันนี้ตนพบนายพรเพชร วิชิตชลชัย ก็ย้ำกับท่านว่ามีจดหมายไปแล้ว แบบสอบถามกำลังรอยู่ วันที่ 18-19 ธันวาคมนี้ ให้ ส.ว.ให้ความเห็น ล่าสุด โทรคุยกับอาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าจดหมายตั้งแท่นรออยู่แล้ว ขอให้ท่านเห็นชอบลงมา จะได้ให้ ส.ส. ทั้ง 500 ท่านตอบแบบสอบถาม

“วันที่ 22 ธันวาคม จะประชุมกรรมการทั้งหมดในงานของผมเท่ากับรับฟังมาครบแล้ว

ประเด็นที่ได้มา ในส่วนของประชาชน ผมยืนยันเลยว่าคนเห็นว่าควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งนั้นเลย ไม่เห็นด้วยแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และเห็นด้วยว่าต้องมี ส.ส.ร. 80-90% คำถามต่อไปที่เป็นห่วงคือปัญหาของเขา ภาคใต้คือเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ อีสานคือเรื่องเหมืองโปแตส ทางเหนือคือเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์

สิ่งที่กังวลคือประชาชนจะออกเสียงประชามติหรือไม่ ถ้าไม่ ก็จะขัดกฎหมายประชามติ พรุ่งนี้ผมกับอาจารย์พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย จะไปสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อพูดคุยเรื่องการทำประชามติ

จากที่เราไปสอบถามว่าคุณจะออกมาทำประชามติหรือไม่ เกือบทั้งหมดบอกว่าออก ตรงนี้ต้องทำประชาสัมพันธ์

ที่ยังเป็นปัญหาอยู่มากคือสมาชิกรัฐสภา เวลาถาม เขาไม่ได้ตอบในฐานะประชาชน แต่ตอบในฐานะผู้ยกมือ คือลงมติว่าให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน” นายนิกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งก่อนเริ่มเวทีเสวนา นายบุญเลิศ ฆนาพรวรกาญจน์ ตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย เข้ามอบเอกสารแก่นายนิกร รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยสื่อสารผ่านล่ามภาษามือว่า อยากให้คนหูหนวกมีโอกาสได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสมัครเป็น ส.ว. และคณะทำงานต่างๆ โดยนายนิกรและนายชัยธวัชรับเอกสาร และพูดคุยผ่านล่ามภาษามือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image