ศาลยกฟ้อง ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหน.ปชป. คดีพรากผู้เยาว์ ส่วนอนาจารหมดอายุความ 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์
ปริญญ์ พานิชภักดิ์

ศาลอาญายกฟ้อง “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. ไม่ผิดอนาจารหญิงสาววัย 17 ปี ชี้เหตุเกิดตั้งแต่ปี 61 แต่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความภายใน 3 เดือน จึงขาดอายุความ และไม่ผิดฐานพรากผู้เยาว์ เพราะอาสาไปส่งบ้านไม่ออกนอกเส้นทาง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ หมายเลขดำอ.1849/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน18 ปีเพื่อการอนาจาร

อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 เวลากลางวัน จำเลยได้พรากหญิงสาวรายหนึ่งอายุ 17 ปีเศษ ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยหญิงนั้นเต็มใจ ด้วยการที่จำเลยใช้มือขวาจับมือซ้ายลักษณะกุมมือและใช้มือซ้ายจับที่ต้นขาของผู้เสียหายโดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งการกระทำอนาจารดังกล่าวเป็นลักษณะเปิดเผยที่เกิดต่อหน้าธารกำนัล เหตุเกิดที่แขวง และเขตดินแดง กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

โดยวันนี้ นายปริญญ์ เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ และเพื่อนสาวคนสนิท

Advertisement

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมีอายุ 17 ปี มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุ หญิงสาวผู้เสียหายอายุ 17 ปี สนใจโครงการฝึกอบรมอาชีพ จึงสมัครและเข้าไปฝึกงานกับบริษัทของจำเลย ซึ่งสถานที่ฝึกงานของจำเลย ได้จัดเตรียมโต๊ะให้ผู้เสียหายนั่งตรงหน้าห้องทำงานของจำเลย และมีการเรียกผู้เสียหายเข้าไปในห้องทำงานเพื่อพูดคุยระหว่างนั้น มีการจับมือโอบไหล่หลายครั้ง แต่ผู้เสียหายคิดว่าเป็นการกระทำลักษณะผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก หลังจากนั้นในวันเกิดเหตุมีการจัดงานเลี้ยง หลังจากเสร็จงานเลี้ยงแล้ว จำเลยอาสาจะพาผู้เสียหายไปส่งที่คอนโดมีเนียม โดยนั่งรถตู้ส่วนตัวที่มีการกั้นผ้าม่านทึบไว้ ระหว่างคนขับ กับที่นั่งผู้โดยสาร และรถตู้ติดฟิล์มสีดำ ขณะนั่งไปในรถตู้จำเลยได้สนทนาเชิงสู้สาวกับผู้เสียหายเป็นภาษาอังกฤษ แล้วมีการจับมือ ลูบแขน ต้นขา ถลกกระโปรงผู้เสียหายด้วย ซึ่งผู้เสียหายขัดขืนและขอลงที่สถานีรถไฟฟ้าระหว่างทาง ก่อนจะถึงคอนโดมีเนียม จากนั้นจำเลยกำชับไม่ให้ผู้เสียหายนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ผู้เสียหายจึงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้อื่นทราบ แต่ก็ไม่ฝึกงานต่อ และขอลาออก

ต่อมาเมื่อเดือน พฤษภาคม 2565 ผู้เสียหายทราบข่าวจากสื่อว่า จำเลยไปกระทำอนาจารกับหญิงสาวอื่นหลายราย จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาฟัง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

Advertisement

พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้แม้เป็นคดีอนาจารกระทำต่อบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีเมื่อไม่ได้ทำต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นการอนาจาร ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความกันได้ และเมื่อผู้เสียหายมิได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 3 เดือน นับแต่วันเกิดเหตุ จึงเป็นอันสิ้นอายุความ เหตุดำเนินคดีจึงระงับไปตาม ป.วิอาญา มาตรา 39 (6)

ส่วนคดีพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดา เพื่อการอนาจาร ข้อเท็จรับฟังได้ว่าจำเลยอาสาจะไปส่งผู้เสียหายจากบริษัทของจำเลยไปยังคอนโดมีเนียมที่พักของผู้เสียหาย ซึ่งระหว่างที่เดินทางนั่งรถตู้ไม่มีการออกนอกเส้นทาง แต่เมื่อเกิดพฤติการณ์ที่จำเลยจับมือ ลูบแขน ต้นขา ผู้เสียหายระหว่างทางภายในรถตู้ส่วนตัว ผู้เสียหายได้กล่าวว่าจะขอลงระหว่างทาง เพื่อจะไปนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดมีเนียมที่พักด้วยตนเอง ซึ่งจำเลยยินยอมให้ผู้เสียหายลงจากรถตู้คนดังกล่าว จึงไม่เข้าลักษณะพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง

หลังฟังคำพิพากษาเสร็จ นายปริญญ์ มีสีหน้าเรียบเฉย และรีบเดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุกนายปริญญ์ 4 ปี ฐานล่วงละเมิดทางเพศ “แอนนา” อดีตภรรยา “ไฮโซลูกนัท” ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย และให้จ่ายค่าชดเชย2 ล้านบาทด้วย รวมทั้ง ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังได้จำคุกนายปริญญ์ อีก2คดี จำคุก คดีละ 2ปี และ 2 ปี 8 เดือน ตามลำดับ และพิพากษายกฟ้อง1คดี นอกจากนี้ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้พิพากษายกฟ้องนายปริญญ์ 1 คดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image