เศรษฐา ชี้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยาวไป แค่ 5 ปี ยังไม่ทันการแข่งขัน อย่าผูกอนาคตลูกหลานไว้ที่คนรุ่นเก่า

“เศรษฐา” ชี้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยาวไป แนะ ปรับให้สอดรับโลกเปลี่ยนแปลง ระบุแค่ 5 ปี ยังไม่ทันการแข่งขัน ชี้ อย่าผูกอนาคตลูกหลานไว้ที่คนรุ่นเก่า เผย ดึงนักลงทุนเพิ่มแข่งขัน แต่ถ่วงค่าแรง เป็นเรื่องน่าละอาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ทั้งนี้ นายกฯเข้าประชุมช้ากว่ากำหนด 30 นาที จากกำหนดการเดิมประชุมเวลา 09.00 น.

นายเศรษฐากล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า ยุทธศาสตร์ชาติที่ให้รัฐบาลและคนทั้งประเทศได้รับรู้และทำงานไปในทิศทางประเทศไทยในอนาคตที่อยากให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเพื่อให้รู้ว่าจะไปถึงภาพนั้นเราต้องทำอะไรกันบ้าง การมียุทธศาสตร์ มีกลยุทธ์ในการทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่ตนไม่เชื่อกับการวางแผนและล็อกตัวเองไว้ยาวนานเกินไป ไม่มีใครที่วางแผนได้ยาวนานขนาดนี้ อย่าว่าแต่ 20 ปี แม้แต่ 5 ปีก็ยังทำยาก โลกนี้เปลี่ยนไปแล้วและจะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เมื่อ 6 เดือน หรือ 7 เดือนที่แล้วเราไม่เคยได้ยินทั้งเรื่องของเทคโนโลยีหรือแม้กระทั่งพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ๆ ที่จะมากำหนดทิศทางโลก

“เราเดินทางไปเจรจาค้าขายเมื่อ 3 ปีที่แล้วดึงคนมาลงทุน แต่ดูเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่พวกท่านไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ เป็นเรื่องน่าละอายใจ และยังมีอีกหลายเรื่องที่ 3 ปีที่แล้วยังไม่มี เช่น พลังสะอาดที่เดินทางเวลาที่ผมเดินทางไปต่างประเทศ จะเป็นเรื่องแรกที่หยิบยกมาพูดคุย นี่คือตัวอย่างที่โลกเปลี่ยน เรื่องเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามแห่งความสามารถ ที่ทุกบริษัท ทุกรัฐบาล ทุกประเทศทั่วโลก ทุ่มดึงดูดทุกคนที่มีความสามารถมาทำงานกัน และยังเป็นเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมาจีนกับสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีฟิกชั่นเยอะขนาดนี้ แต่ปัจจุบันมีสูงขึ้น” นายกฯกล่าว

Advertisement

นายเศรษฐากล่าวว่า ประเทศเราต้องคอยปรับยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา ตนอยากให้แผนยุทธศาสตร์มีความคล่องตัว กระจายมากยิ่งขึ้น ให้มีการทบทวนและยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก ขอฝากที่ประชุมช่วยกันพิจารณารูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสมและจะทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์เกิดประโยชน์ได้จริงและให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกในวันนี้ และไม่ปิดกั้นอนาคตของประเทศชาติ เพื่อให้การตัดสินเส้นทางการพัฒนาของลูกหลานของพวกเราในอีก 20 ปีข้างหน้าไม่ถูกผูกมัดด้วยความคิดของคนรุ่นเก่า ให้มีโอกาสที่จะปรับเท่าคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้นให้มีโอกาสที่จะเลือกทิศทางในการวางยุทธศาสตร์และก้าวไปพร้อมกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการประชุมถึงการมอบนโยบายในที่ประชุมยุทธศาสตร์ชาติ ที่วางกรอบไว้ 20 ปี อาจจะต้องมีการทบทวนตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงว่า ต้องเป็นไปตามบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป ก็รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดเวลา โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เชื่อว่ารัฐบาลทุกท่านก็เห็นอยู่ว่าหลายเรื่อง โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าจะมีการทบทวนหรือปรับยุทธศาสตร์ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ยังครับ” และตอนนี้การประชุมก็ยังไม่เสร็จ แต่ตนต้องพบหารือกับรัฐมนตรีก่อน เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่านายกฯเห็นว่าจะต้องมีการทบทวนหรือปรับทุก 5 ปีหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า แล้วแต่ความเหมาะสมที่จะต้องพิจารณากัน เชื่อว่าข้อความที่ตนส่งไป ความหมายที่ส่งไปชัดเจนว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากในช่วงที่ผ่านมา และหลายเรื่องหากเราจะดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาในประเทศ มันก็มีสงครามดึงคนเก่ง อย่างที่ตนเรียนไปว่าสมัยก่อนเวลาไปดึงดูดนักลงทุนเข้ามา เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่มีใครพูดเรื่องพลังงานสะอาดเลยใช่หรือไม่ แต่วันนี้เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่ง

Advertisement

เมื่อถามว่า แต่ยุทธศาสตร์ชาติถูกล็อกไว้โดยรัฐธรรมนูญ จะทำอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้กว้าง มีขอบเขตพื้นที่ให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image