ศิริกัญญา อัดรบ.ทำงบไม่ตอบโจทย์วิกฤต เอาใจขรก.มากกว่าทำตามนโยบาย ผิดหวังกองทัพได้เพิ่มทั้งที่บอกว่าจะลด

ศิริกัญญา อัด รบ. ไม่จัดงบตามที่บอกว่ามีวิกฤต เอาใจขรก.มากกว่าทำตามนโยบาย ผิดหวังกองทัพได้เพิ่มทั้งที่บอกว่าจะลด แซะไม่คุ้นบริหารราชการแผ่นดิน เพราะถนัดแต่บ.เอกชน

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ว่าพรรคก้าวไกลได้ศึกษาวิเคราะห์งบประมาณ โดยตั้งธีมอภิปรายไว้ว่า “วิกฤตแบบใด? ทำไมถึงจัดงบแบบนี้” โดยก่อนที่จะเข้าสู่อำนาจพรรคเพื่อไทยได้อ้างถึง 3 วิกฤต ได้แก่ วิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตความขัดแย้ง รวมถึงวิกฤตอื่นๆ ที่สังคมเห็นตรงกัน เช่น วิกฤตการศึกษา วิกฤตทรัพยากรมนุษย์ วิกฤตสิ่งแวดล้อม PM2.5 ซึ่งเมื่อศึกษาและวิเคราะห์งบประมาณกลับไม่เห็นการจัดงบที่ตอบสนองกับวิกฤตที่เกิดขึ้น และยังมีงบที่ไม่เหมาะไม่ควรอยู่ ทั้งยังมีงบบางอย่างที่หายไป

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เราต้องการเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราไม่เห็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจเลย โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่อยู่ในงบประมาณปี 67 แต่ต้องไปรอลุ้น พ.ร.บ.เงินกู้ฯ ด้านวิกฤตรัฐธรรมนูญ ตั้งงบประชามติไว้เพียงแค่ครึ่งประชามติ ไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องรับมรดกหนี้จากรัฐบาลที่แล้ว ทั้งหนี้สาธารณะ ต้องใช้เงินคงคลัง เนื่องจากรัฐบาลที่แล้วตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ เช่น งบบุคลากรเงินเดือนข้าราชการในปี 65 และ 66 ซึ่งตั้งไว้ไม่พอ ตอนนี้ต้องใช้หนี้เงินคงคลัง 120,000 ล้านบาท รัฐบาลชุดนี้ จึงต้องใช้หนี้รัฐบาลชุดก่อนที่ผ่อนดาวน์ไว้ราว 400,000 ล้านบาท เราก็เห็นใจ แต่งบประมาณที่สามารถจัดสรรได้เองกลับไม่เห็นความพยายามในการขับเคลื่อนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้เลย

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ในปี 67 มีโครงการใหม่แค่ 200 โครงการ จากทั้งหมด 2,000 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าเพียง 13,000 ล้านบาท งบประมาณฉบับนี้เป็นการใช้หนี้มรดกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่สะท้อนถึงความพยายามในการจัดสรรงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนงบของตนเอง งบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรัฐบาลเดิม จึงขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่าระยะเวลาเป็นหนึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถใส่โครงการใหม่ได้ แต่งบฉบับนี้มีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา ดังนั้น หากมีการเตรียมการล่วงหน้าหรือเขียนโครงการเอาไว้แล้ว ถึงเวลาจัดสรรงบก็สามารถใส่ไปได้เลย แม้งบปี 67 จะมีการปรับปรุงไปแล้ว 1 ครั้ง แต่เป็นการลดหนี้ลดเงินที่ต้องชำระหนี้ ธ.ก.ส. 20,000 ล้านบาท ไปเพิ่มในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 15,000 ล้านบาท และเพิ่มกองทุน SMEs อีก 5,000 ล้านบาท ดังนั้น จะบอกว่าเวลาน้อยปรับปรุงไม่ทันก็ฟังไม่ค่อยขึ้น

Advertisement

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ยังไม่คุ้นชินกับการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะคุ้นชินกับการบริหารบริษัทเอกชน จึงยังไม่สามารถขับเคลื่อนข้าราชการให้ทำตามที่ได้มอบหมายไว้ได้ นอกจากนี้ การเข้าสู่อำนาจของรัฐบาล จึงเป็นผลให้ต้องประนีประนอมกับพรรคร่วมรัฐบาลและหลายฝ่าย โดยโครงการเรือธง เช่น ขึ้นค่าแรง และการแจกแท็บเล็ต ก็ไปอยู่ในมือของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนได้

ทั้งนี้ งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ถือเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ว่าจะตัดลบงบประมาณลง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ปี 67 งบเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กระทรวงมหาดไทย สัดส่วนงบประมาณเยอะเนื่องจากต้องจัดงบเพื่อกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงเงินอุดหนุนต่างๆ

“เราคาดหวังมาก เพราะนี่เป็นในรอบ 9 ปี ที่ได้เปลี่ยนผู้นำรัฐบาล คาดหวังว่ารัฐบาลจะได้จัดสรรงบแบบใหม่เพื่อให้เราขับเคลื่อนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ปีนี้ขึ้นปีที่ 10 เราก็ยังเจองบประมาณแบบเดิมอยู่”

Advertisement

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นห่วงว่าจะไม่ได้ทำ ต้นปีหน้ากฤษฎีกาน่าจะให้ความกระจ่างว่าจะทำได้หรือไม่ การเอาไข่ไปไว้ในตะกร้าเดียว ฝากความหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพียงโครงการเดียว และเอาออกไปอยู่นอกงบประมาณรายจ่ายประจำปี หากทำไม่ได้ งบประมาณสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีเพียงงบกลางเท่านั้น ซึ่งในงบกลางมีการจัดสรรไว้ไม่เพียงพอ มีหลายรายการที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอก็ต้องมาใช้งบกลางอีก เช่น งบอุดหนุนรถยนต์ EV ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดีกว่านี้

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า กรอบเวลาการอภิปรายงบประมาณ จะตกลงเวลากับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง ตอนนี้รอให้พรรคประชาธิปัตย์ทำการบ้านเสร็จก็จะจัดคิวการอภิปราย เราอยากให้คนที่พูดเรื่องเดียวกัน อภิปรายใกล้ๆ กัน รัฐมนตรีจะได้ฟังทีเดียวและตอบทีเดียว เพราะไม่อยากให้รัฐมนตรีมาตอบทีละคำถาม โดยขุนพลของพรรคก้าวไกล 33 คน ไม่มีใครอภิปรายเรื่องซ้ำกัน แต่ละคนเป็นการอภิปรายเชิงประเด็น ไม่ใช่อภิปรายเป็นรายกระทรวง เรื่องหนึ่งที่ ส.ส.คนหนึ่งพูดต้องมีรัฐมนตรีหลายคนเข้ามานั่งฟัง ไม่ใช่นั่งฟังเฉพาะกระทรวงตนเอง

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า การอภิปรายงบประมาณจะเปิดด้วยภาพรวมเศรษฐกิจ ตามมาด้วยวิกฤตเศรษฐกิจเพราะประชาชนเฝ้ารอว่ารัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่าเก่งในด้านบริหารเศรษฐกิจ จะทำให้เศรษฐกิจประเทศนี้โตได้อย่างไร จากนั้นจะอภิปรายเรื่องวิกฤตความขัดแย้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ วิกฤตกองทัพ วิกฤตการศึกษา วิกฤตทรัพยากรมนุษย์ และงบประมาณ Soft Power ซึ่งต้องดูรายละเอียดประกอบกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อจัดเวลาในการอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการศึกษางบประมาณปี 67 ที่มีเวลาน้อยเพียง 7 วันและคาบเกี่ยวช่วงปีใหม่ ตามปกติ ส.ส.ต้องไปพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จำเป็นจะต้องยกเลิกนัดหมายไป เป็นความฉุกละหุกที่เกิดขึ้น ทำให้เรามีเวลาน้อยและต้องทำงานให้หนักขึ้น โชคดีที่มีการแปลงไฟล์งบจาก PDF ให้เป็น Excel ทำให้เราวิเคราะห์งบประมาณได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ละเอียดขึ้น และลึกขึ้น รับรองว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ทำให้ผิดหวัง วิเคราะห์งบประมาณอย่างแหลมคม ตรงไปตรงมา และมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่จำเป็นต้องแปลงเป็นไฟล์ Excel สำนักงบประมาณของรัฐสภามีการทำแดชบอร์ดอยู่แล้ว แต่มีข้อมูลลึกถึงเพียงระดับหน่วยงานเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดรายโครงการ เพราะปีศาจจะอยู่ในรายละเอียด

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เวทีงบประมาณก็คือเวทีงบประมาณไม่ใช่เวทีซักฟอก เวทีงบประมาณถือเป็นเวทีแถลงนโยบาย 1 ปีของรัฐบาล ตอนเริ่มต้นรัฐบาลได้มาแถลงนโยบายภาพรวม 4 ปี แต่การแถลงงบประมาณถือเป็นการแถลงนโยบายในวาระ 1 ปี ดังนั้น เราจะเจาะ จะคุ้ย และวิพากษ์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น จะซักฟอกเฉพาะโครงการที่มีโอกาสเกิดคอร์รัปชั่น แต่ไม่ใช่หลักใหญ่ใจความในการอภิปราย พร้อมฝากถึงรัฐบาลให้ใส่ใจรายละเอียดในงบประมาณอย่าเพียงแค่อนุมัติ เพราะหลายเรื่องมีความสำคัญจำเป็นกับประชาชน หากตัดสินใจพลาดไปผลกระทบจะเกิดขึ้นตามมา รัฐบาลอาจให้ความไว้ใจกับข้าราชการประจำ จึงมีการจัดสรรงบประมาณแปลกๆ ตามใจข้าราชการมากกว่าขับเคลื่อนนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

ทั้งนี้ ในชั้นกรรมาธิการ คงมีงบบางเรื่องที่ต้องจัดสรรใหม่ ให้โครงการที่มีความจำเป็น ยกตัวอย่างโครงการส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของกรมบัญชีกลาง ซึ่งถูกตัดงบเหลือ 0 บาท เราก็จะหยิบยกโครงการที่ถูกปัดตกโดยสำนักงบประมาณขึ้นมาพิจารณาใหม่ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image