ยิ่งวันสถานการณ์อันเกี่ยวกับ “งบประมาณ” จะยิ่งดำรงอยู่เหมือนกับเป็น “จุดตัด” อันนำไปสู่การเป็น “เส้นแบ่ง” อย่างมีนัยสำคัญยิ่งในทางการเมือง การปกครอง
ทุกอย่างดำเนินไปบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงที่ว่า “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
หากนำเอาคำกล่าวปิด ไม่ว่าจะมาจาก น.ส.จิราพร สินธุไพร จากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจาก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จากพรรคก้าวไกล จะรับรู้ได้อย่างชัดเจน
เป็นความชัดเจนในการเข้าสู่ “อำนาจ” ในแบบของพรรคเพื่อไทย เป็นความชัดเจนในการเข้าสู่ “อำนาจ” ในแบบของพรรคก้าวไกล
คำถามที่พรรคก้าวไกลเสนอเข้ามาดำเนินไปและดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็นการท้าทายเป็นอย่างสูง ไม่เพียงแต่พิสูจน์ผ่านการใช้เวลา 7 วันในการทำความเข้าใจและตีความร่าง “งบประมาณ”
หากแต่แสดง “วิธีวิทยา” และ “วิธีการ” ในการที่จะเอาชนะต่อทุกกระบวนท่าอันปฏิบัติอย่างแยบยลจากความจัดเจนทางการเมืองในแบบที่พรรคเพื่อไทยสะสมมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย
“วิธีวิทยา” ในการเอาชนะ “อุปสรรค” ต่างหากที่มีความสำคัญ
ความสำคัญของพรรคก้าวไกลในการแปลงไฟล์ร่าง “งบประมาณ” จาก PDF เป็น CSV ต่างหากคือเครื่องมือและกลายเป็น “อาวุธ” อันทรงพลานุภาพ ทั้งในทาง “ความคิด” และในทาง “การเมือง”
โดยพื้นฐานความสำเร็จนี้มาจากความร่วมมือกันระหว่างเหล่า “เนิร์ด” ของ WeVis และ GaoGeek
เป็นความร่วมมือตั้งแต่งบประมาณ พ.ศ2566 มาแล้ว
ไม่ว่า WeVis ไม่ว่า GaoGeek เป็นองค์กรภาคประชาชน เพียงแต่ GaoGeek เป็นองค์กรภาคประชาชนที่ทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล
ที่น่าสนใจอยู่ที่ WeVis มิได้จำกัดเพียงร่วมกับ GaoGeek ในการแปลงไฟล์ PDF อันเป็นประดิษฐกรรมยุคโบราณเท่านั้น หากแต่ยังเดินหน้าเป็นเวทีสาธารณะอีกก้าวใหญ่
นี่คือจุดตัดอันก่อให้เกิด “เส้นแบ่ง” อย่างแหลมคมยิ่ง ไม่เพียงแต่ต่อ “งบประมาณ” หากระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ก้าวไกล”
การทำความเข้าใจต่อคำกล่าวปิดจาก น.ส.จิราพร สินธุไพร จึงเป็นตัวแทนแห่งพรรคเพื่อไทย การทำความเข้าใจต่อคำกล่าวปิดจาก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ คือตัวแทนแห่งพรรคก้าวไกล
เมื่อเข้าใจ 2 คนนี้ก็จะเข้าใจการต่อสู้ทางการเมืองปัจจุบัน
เข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงต้องจับมือกับ “ลุง” เข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงถือทุกกระบวนท่าของพรรคก้าวไกลเป็นอุปสรรคที่จะต้องตีฝ่า
นี่คือ “มิติ” แห่งการต่อสู้ภายหลังสถานการณ์ “สิงหาคม 2566”