บิ๊กตู่บ่น พวกจ้อแต่ ปชต.ทำเสียหาย แนะพูดสื่อฝรั่งน้อยๆ-ส่งจม.มาจะอ่านหมด

นายกฯ เปิดปฏิบัติการประชารัฐ เข้มแข็งด้วยตัวเอง อย่าให้การเมือง ความขัดแย้ง มาทำลายโอกาสประเทศ เตือนกำนัน-ผญบ.อย่ากังวลให้มากเรื่องกระจายอำนาจ พร้อมขอ ปชช.อย่าใจร้อน เพราะต้องแก้ปัญหาหลายล้านเรื่อง พลาดให้มีการทุจริตไม่ได้ แขวะบางคนจ้อสื่อฝรั่งให้น้อย หยุดตี ปชต.-สิทธิมนุษยชน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ “โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ” โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราถือว่าร่วมมือกันในการเดินหน้าประเทศเพราะเราหยุดมานานแล้ว ในการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ขณะที่ไส้ในของพี่น้องประชาชนยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก ที่จะให้มีรายได้ที่พอเพียงในการดูแลครอบครัว เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก วันนี้ต้องเกิดความเข้าใจกัน และทุกครั้งที่ผมเจอประชาชนรู้สึกมีความสุข ซึ่งเวลาอื่นผมอาจจะหน้างอ เป็นธรรมชาติของผม อารมณ์เสียบางเวลา บางครั้งก็แกล้งอารมณ์เสีย แกล้งดุไปบ้าง แต่แกล้งไปแกล้งมากลายเป็นจริงๆ สิ่งที่ผมทำให้ท่านไม่ใช่เป็นการหลอกลวง มาบังคับ เพราะผมไม่ได้ต้องการอะไรจากประชาชนทั้งสิ้น แต่รับใช้ผืนแผ่นดินเกิดผืนนี้ สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน โดยเข้มแข็งที่ตัวเองก่อน สำคัญสุดอย่าทำลายโอกาสที่เราเป็นศูนย์กลางอาเซียนให้หายไปจนกลายเป็นวิกฤตแทน ด้วยความขัดแย้ง ด้วยการเมือง เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง รัฐบาลเป็นเพียงผู้ชี้นำ ท่านต้องรับฟังรัฐบาลด้วยความเชื่อใจ อย่างเรื่องเงินกองทุนต่างๆ ก็หมดเงินไปมาก อย่างกองทุนหมู่บ้าน 5 ล้านบาท รู้สึกดีใจที่เงินไปถึงประชาชนโดยตรง แม้จะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ก็จะมาแก้ไข หาวิธีการอื่นมาทดแทน

นายกฯ กล่าวต่อว่า อย่าหาว่าตนพูดเยอะ จู้จี้ เพียงแต่ต้องการให้มองในทุกมิติ มองประชาชนในทุกภาคส่วน ไม่ใช่เลือกดูกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เหมือนที่พูดไว้ในเพลง “เพื่อเธอประเทศไทย” ที่พูดถึงสองมือ ที่มีอยู่สิบนิ้ว และทุกนิ้วสำคัญหมด และทุกคนก็คือประชารัฐทั้งหมด การทำอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงประชาชนในประเทศเป็นพื้นฐาน รัฐบาลต้องคิดแบบนี้ ประชาชนคือส่วนหนึ่งของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่มีใครรู้ปัญหาได้ดีเท่ากับตัวท่านเอง ว่ายังมีอะไรที่จำเป็นแล้วมาแก้กันตรงนี้ โดยรัฐบาลส่งเสริมให้ทุนให้ความรู้ และเมื่อวันหน้าท่านเข้มแข็งแล้วจะกลายเป็นการกระจายอำนาจอย่างถาวร อย่าไปกังวลเรื่องกระจายอำนาจต่างๆ บรรดากำนัน-ผู้ใหญ่บ้านอย่าไปกังวล เอาประชารัฐให้รอดก่อน ประเทศไทยมีการบูรณาการมากี่รัชกาลแล้ว ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ต้องเชื่อมโยงกันทั้งหมด

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ข้างล่างจำนวนกว่า 40 ล้านคนทำการเกษตร ดูเหมือนว่ายิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ไม่มีการพัฒนาไปในทางที่แข็งแรงขึ้น ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่สามารถเอาเงินทั้งหมดไปทุ่มให้กับใครคนใดคนหนึ่งได้ เพื่อหวังผลอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่ แต่เป็นการหวังผลให้ประเทศนี้มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ชาวไร่ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ พูดกับใครได้อย่างเต็มปาก ทุกคนอยากมีเงินกันหมด เพราะมีเงินแล้วพูดเสียงดังได้ มีเงินแล้วพูดได้อยู่คนเดียว มีเงินแล้วนำคนอื่นไปในทางที่เสียหาย เราต้องนำตัวเราเองเจริญเติบโตแข็งแกร่งไปด้วยกัน

วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่าง ดูได้จากการทำงานแม่น้ำ 5 สาย เพื่อให้ทันต่อโลก ทันต่อเหตุการณ์ เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ข้าราชการเขาก็ต้องมีระเบียบวินัยในการควบคุมเรื่องการทุจริตความไม่โปร่งใสก็ไปว่ากันมา แต่ไม่ใช่มันเลวทั้งหมด แต่มันก็คงไม่ใช่ดีทั้งหมดเหมือนกัน ต้องขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นออกไปให้ได้ ตนก็สบายใจที่รัฐมนตรีบอกว่าจะช่วยกันดูแล มีการตรวจสอบกันเอง ซึ่งก็อย่าพลาดก็แล้วกัน ทำให้บางอย่างรัฐบาลทำช้า เพราะมันพลาดไม่ได้

“เพราะมันมีผู้ไม่หวังดีอยู่หลายส่วน วันนี้เราเข้ามาแก้ไขปัญหาที่มันติดขัด ความขัดแย้ง ถ้าทุกคนเข้มแข็ง มีเสียง มีที่ยืน แต่ถ้าประเทศไทยทะเลาะกันแบบนี้ก็จะไม่มีที่ยืนในประชาคมโลกอีกต่อไป เพราะเราทำมันเองทั้งสิ้น เวลาผมไปต่างประเทศจะไม่พูดอะไรที่เสียหาย แต่มีบางคนไปพูด ผมก็ต้องไปสู้เขา ว่าที่พูดมาทั้งหมดมันไม่ใช่ ให้เชื่อในสิ่งที่ผมพูด เพราะผมทำให้เห็น ผมไม่ได้กล่าวถึงใครทั้งสิ้น ไปคิดกันเอาเอง วันนี้ทุกเรื่องที่ออกไปเสียหาย ที่ไม่ได้มาจากพวกเรา แต่มาจากใครไม่รู้ พูดเสมอ เรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เรื่องสิทธิมนุษยชนมันมีอยู่เส้นบางๆ ระหว่างกัน ในเรื่องการละเมิดกฎหมาย กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ดูเหมือนเส้นเดียวกันแต่มันไม่ใช่ การบังคับใช้กฎหมายก็ต่อเมื่อมีคนทำผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายทำให้ประชาชนเท่าเทียมกัน ทุกคนใช้กฎหมายอันเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่นั้นในการอำนวยความเป็นธรรรมให้กับทุกคน โดยใช้กฎหมายอันเดียวกันหมด ถ้าทุกคนเชื่อในกฎหมายก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้ายังขัดแย้งหรือทำผิดกฎหมายอยู่มันไปไม่ได้ทั้งสิ้น ก็ขอให้ระมัดระวังตรงนี้ ผมไม่อยากไปใช้อำนาจกับใครทั้งสิ้น แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย” นายกฯกล่าว

Advertisement

นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่พูดผมไม่ได้กลัวท่านโกรธ เพราะท่านโกรธผมไม่ได้อยู่แล้ว ท่านจะว่าผมอย่างไรก็รับได้หมด เพราะผมกำลังทำให้กับประเทศชาติ ใครไม่เข้าใจก็บอกมาจะแก้ให้หมด ผมฟังทุกวันที่ท่านพูดในหนังสือพิมพ์ พูดกับสื่อฝรั่ง ขอให้ท่านพูดน้อยๆ หน่อย มีอะไรก็ส่งหนังสือมา เขียนจดหมายมาเลย ผมรับอ่านทั้งหมด หรือไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม อย่าติติงรัฐบาลมากว่าทำอะไรไม่เสร็จสักที รู้หรือไม่สองปีที่ผ่านมา มีปัญหาที่ร้องเรียน 3 ล้านกว่าเรื่องแล้ว มันจะทำเสร็จไหม ก็แก้ไปแล้วเสร็จกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือหนักๆ ทั้งนั้น ทั้งเรื่องกฎหมายที่ซ้ำซ้อน ความทุจริต ความไม่โปร่งใส และได้ออกกฎหมายและได้แก้ไขกว่า 400 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image