โรม ชี้ต้องตัดตอน หลักสูตรคอนเน็กชั่น เอาผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ออกให้ห่างนักธุรกิจ

โรม ชี้ต้องตัดตอน หลักสูตรคอนเน็กชั่น เอาผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ออกให้ห่างๆนักธุรกิจ

เมื่อวันที่ 12 มกราคา 2567 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง [ถึงเวลายกเลิกหลักสูตร วปอ. – มินิวปอ. หรือยัง?] ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

ตอนนี้มีหลายคนในสังคมกำลังตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับหลักสูตร วปอ. และมินิ วปอ. (วปอ.บอ.) เนื่องจากปรากฏชื่อของคุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ลงสมัครเข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าวด้วย

เดิมหลักสูตร วปอ. มีขึ้นมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป. ที่จัดตั้งมาเพื่อให้ความรู้ในการป้องกันราชอาณาจักร แก่ข้าราชผู้ใหญ่ จากฝ่ายทหารและพลเรือน ซึ่งผมเชื่อว่า ความตั้งใจแต่แรกคือการอยากให้ทหารเข้าใจความคิดของพลเรือน พลเรือนเข้าใจความคิดของทหาร และแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงเพื่อใช้ในการปกป้องประเทศ

แต่เมื่อมาถึงวันนี้ ผู้ที่เข้าร่วมหลักสูตรดังกล่าว กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ที่มาจากกระบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ รวมทั้งพ่อค้า นักธุรกิจให้เข้ามาสู่หลักสูตรนี้ได้ จึงทำให้กลายเป็นพื้นที่ให้พ่อค้า นักธุรกิจ ที่มีเงินมีทรัพย์สิน เข้ามาแสวงหาสิ่งที่ไม่มีคืออำนาจบางอย่างที่ผู้มีอำนาจรัฐมี

ADVERTISMENT

การหาคอนเน็กชั่นแบบนี้ ที่มีผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ อยู่ในเครือข่าย คือหลักสูตรที่สร้างความเสี่ยงต่อการนำคอนเน็กชั่นมาใช้ในทางทุจริต โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเดิมพัน ทำให้ประเทศของเราอยู่ในอันตราย ทำให้กระบวนการยุติธรรมอยู่ในความเสี่ยง

แม้ว่าหลักสูตรมินิ วปอ. จะไม่มีผู้พิพากษา อัยการ ก็ตาม แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือการหวงห้ามความรู้ สงวนสิทธิเหล่านี้ให้แก่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น โดยอ้างอิงจากคำพูดของนายกฯว่า ผู้ที่จบหลักสูตร วปอ. คือ 1% ของประเทศนี้ หากประเทศของเราอยากสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ การเดินหน้าจัดหลักสูตรมินิ วปอ. ด้วยการกีดกันคุณสมบัติเช่นนี้ ยิ่งทำให้ 1% เหล่านี้เหนียวแน่นกัน ยิ่งตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และทำให้การเลือกปฏิบัติชัดเจนยิ่งขึ้นในสังคม

ดังนั้นหากเราจะให้หลักสูตรแบบนี้เดินหน้ากันต่อ ขั้นต่ำที่สุดที่เราต้องทำ คือการนำผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ออกจากหลักสูตร ตัดตอนเครือข่ายคอนเน็กชั่น ให้นักธุรกิจออกห่างจากผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม หรือหากจะปฏิรูปหลักสูตรกันอย่างจริงจัง เราก็อาจจะตั้งเป็นมหาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ที่ดำเนินการวิชาการ มีการวัดผล และสุดท้ายไม่ว่าจะทำแนวทางไหน ก็ต้องเปิดให้บุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องของความมั่นคง ที่นามสกุลไม่ดัง ได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ได้เท่าเทียมกัน

ผมยังเชื่อว่าในเนื้อหาของหลักสูตร วปอ. ยังมีส่วนที่น่าสนใจ ในเรื่องของความมั่นคงอยู่จริง แต่การมีอยู่ของ วปอ.เช่นนี้ต่อไป ก็ทำให้ผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน เพื่อไม่ให้นำคอนเน็กชั่นเหล่านี้ไปเอื้อการทุจริต เพื่อไม่ให้วิทยาลัยปัองกันราชอาณาจักร กลายเป็นวิทยาลัยกินรวบราชอาณาจักร ติดตามกันต่อไปครับ