นายกฯ รับข้อเรียกร้องเยาวชนฯ คงกม.ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เป็นของขวัญวันเด็กฯ

นายกฯ รับข้อเรียกร้องเยาวชนฯ คงกม.ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เป็นของขวัญวันเด็กฯ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พบพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นำโดย นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ น.ส.ศุภานัน เจนธีรวงศ์ นายกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯนายนิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ กรรมการสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ นพ.ปรีชา สุนทรานันท์ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ พร้อมรับหนังสือเรียกร้อง ให้คงกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า และข้อเรียกร้องให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องเด็กไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก

นพ.วิชช์ กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนไทยอย่างมาก โดยใช้กลยุทธ์การตลาดผลิตเป็นตัวการ์ตูน มุ่งเป้าเด็ก ที่ป.2 อายุน้อยเพียง 7 ขวบ ทำให้เครือข่ายผู้ปกครองและครูมีความกังวล และ91.5% สนับสนุนให้รัฐบาลคงมาตรการห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า และควรเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ขายหน้าร้านและออนไลน์

Advertisement

นายฮาซีม กล่าวว่า ปัญหาด้านสุขภาพที่เด็กและเยาวชน คือ ปัญหาสารเสพติดในเด็กและเยาวชน เช่น กัญชา กระท่อม และบุหรี่ไฟฟ้า ที่แพร่ระบาดในเด็กและเยาวชนส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจ จึงมีข้อเสนอ ดังนี้ 1. ขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 2.ขอให้คงไว้ซึ่งกฎหมายห้ามนำเข้าและค้าขายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเป็นมาตรการที่ดีในการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า 3.ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการสร้างสื่อที่สร้างความเข้าใจและผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า 4.ขอให้สถานศึกษาดูแลและเคร่งครัดในการสร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

น.ส.ศุภานัน กล่าวว่า จุดยืนของกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า และขอให้มีการทบทวนในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1.ผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนไทยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเยาวชน ย่อมน่าเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น หากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย แม้ปัจจุบันนี้ยังไม่ถูกกฎหมายก็พบว่ายังมีการลักลอบนำเข้า ซื้อขาย และใช้อย่างแพร่หลายในเด็กและเยาวชน 2.หากมีการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ทางภาครัฐมีมาตรการในการควบคุมการนำเข้าและการซื้อขายอย่างไร รวมถึงการจัดการความเสี่ยงที่จะซ้ำเติมการเสพติดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กเล็กและเยาวชน และ 3.การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ต้องมีรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบจากธุรกิจยาสูบ

Advertisement

นายพัฒน์ งามเดชากิจ ผู้แทนสโมสรนักศึกษารามาธิบดี กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูนำสู่การเสพติดชนิดอื่น ๆ ของเยาวชน จากการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นนักสูบหน้าใหม่ จนเป็นวิกฤตถึงขั้นหายนะของอนาคตของชาติ สโมสรนักศึกษารามาธิบดี  จึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ขอให้คงมาตรการห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะจากการทบทวนมาตรการของประเทศต่าง ๆ พบว่าเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องเยาวชนนักสูบหน้าใหม่ 2.ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ โดย กรมศุลกากรตรวจการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจจับผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อตรวจจับและปิดช่องทางลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อสังคมออนไลน์

3.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองและครู รวมทั้งสื่อมวลชนเฝ้าระวังกลยุทธ์การตลาดล่าเหยื่อ โดยเฉพาะในสื่อออนไลน์ และการแทรกแซงเชิงนโยบายทุกรูปแบบของอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้า และ 4.เร่งรณรงค์แล้วให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ทุกภาคส่วน โดยบรรจุเข้าเป็นหลักสูตรการเรียนสำหรับนักเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงอุดมศึกษา รวมทั้งในสื่อออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อปกป้องเยาวชนไทย เป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับมอบหนังสือฯ ข้อเรียกร้อง พร้อมกล่าวว่าจะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image