‘เศรษฐา’ เตรียมเยือนยุโรป เข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค.ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เน้นย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยเพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของโลกร่วมกับผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วโลก พร้อมโชว์แผนลงทุนแลนด์บริดจ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะมีกำหนดเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ไปยังนครซูริค สมาพันธรัฐสวิส ในเวลา 00.15 น. คืนนี้ (15 ม.ค) เพื่อเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ณ สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม
สำหรับการประชุม WEF Annual Meeting ประจำปี 2567 เป็นครั้งที่ 54 จัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” เน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่ออนาคต ความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคม และระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบัน ซึ่งการเข้าร่วม WEF ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ นับเป็นการเข้าร่วมระดับผู้นำของไทยในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ในสมัยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นการเยือนภูมิภาคยุโรปครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะตอกย้ำความพร้อมของไทยในการร่วมขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของโลก และใช้โอกาสนี้พบปะหารือกับผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วโลก
สำหรับกำหนดการสำคัญภายใต้กรอบ WEF นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วม 3 รายการ ได้แก่ 1.กล่าวเปิดการเสวนา Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand 2.การเสนอโครงการ Thailand Landbridge : Connecting ASEAN with the World และ 3.ร่วมเสวนา Learning from ASEAN ซึ่งจะมีผู้นำไทย เวียดนาม และกัมพูชา เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการพบปะภาคเอกชนสำคัญ อาทิ ผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยี และ Solutions บริษัทท่าเรือ logistics บริษัทด้านการเงิน การธนาคาร บริษัทด้านโทรคมนาคม บริษัทด้านยาและวัคซีน บริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทด้านธุรกิจ Delivery และพบปะบุคคลสำคัญ อาทิ นายมาทีอัส คอร์มันน์ (Mathias Cormann) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD นาย Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร WEF และ ผู้บริหารของ World Bank ด้วย
นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม WEF ในครั้งนี้ เพื่อผลักดันบทบาทของไทยในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือในโลก การส่งเสริมการค้าการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรม EVs อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน เศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมความเชื่อมโยงผ่านโครงการ Landbridge ให้แก่ผู้นำและผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม วิชาการ และสื่อชั้นนำต่างๆ ที่เข้าร่วม เพื่อนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมกลับมาให้พี่น้องชาวไทย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสในการเข้าร่วมประชุม WEF ครั้งนี้ ผลักดันบทบาทของไทย และแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของโลกร่วมกับผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วโลก โดยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดร่วมคณะเพื่อเข้าร่วมการประชุม WEF ตามคำเชิญของ World Economic Forum (WEF) ด้วย ซึ่งถือเป็นการเข้าร่วมการประชุมในระดับผู้นำครั้งแรกของไทยในรอบ 12 ปี และเป็นการเดินทางเยือนภูมิภาคยุโรปครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้พบกับผู้นำจากทั่วโลก เพื่อแสดงความพร้อมของไทย ที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน
โดยนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมและร่วมเป็นผู้เสวนาในการประชุมและเวทีเสวนาต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและเชิญชวนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยโดยเฉพาะโครงการ Landbridge ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ อาทิ แนวโน้มเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์โลก ความยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสีเขียว นอกจากนั้น ยังมีกำหนดการพบกับผู้นำรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศ และภาคธุรกิจ เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือในอนาคต