Conforall บุกทำเนียบ ขอคิวพบ ‘เศรษฐา’ หารือคำถามประชามติ บี้ถามปมล่าชื่อถึงไหนแล้ว?

Conforall บุกทำเนียบ ยื่นหนังสือนายกฯ ทวงถาม ‘เศรษฐา’ หลัง ปชช.ล่ารายชื่อยื่นแก้ รธน.ถึงขั้นตอนไหนแล้ว แย้มอยากหารือนายกฯก่อนสิ้นเดือนนี้

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 15 มกราคม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนจากกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ Conforall นำโดย นายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีผ่าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือทางออกการทำประชามติในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายรัชพงษ์กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่าคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ ได้คำถามในการทำประชามติแล้ว แต่พวกเรามีความกังวลว่าคำถามประชามตินี้อาจจะเป็นปัญหาต่อไป และเรากังวลว่าหากตั้งคำถามประชามติ โดยอ้างการว่าต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ หมวด 1 และหมวด 2 ร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดคำถามว่าหมวด 1 และหมวด 2 คืออะไร เหตุใดต้องยกเว้น และอาจจะเป็นการสร้างบทสนทนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่จำเป็น พวกเราจึงอยากติดตามว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเรามี 2 ประเด็นที่ต้องการสื่อสารให้ชัดเจน

Advertisement

1.การเขียนคำถามประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ หรือไม่แก้หมวดหนึ่งและหมวดสอง แต่เราแค่ระบุว่า ใครจะแก้ หรือไม่แก้มาตราใด หมวดใด ก็ให้อยู่ที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และเราก็เลือก ส.ส.ร.ที่ต้องการแก้ไขหมวด หรือมาตราตามที่เราต้องการ

2.การเขียนคำถามประชามติล็อกว่าจะไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 ในขั้นแรก ไม่ได้หมายความว่าหมวดอื่นๆ จะไม่ถูกล็อกโดยรัฐสภา ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่าในรัฐสภาก็มี ส.ว.ที่ไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เรามองว่าการระบุลงไปเลยว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะเป็นเกราะป้องกัน ทำให้การพูดคุยกันในสภาทำได้ง่ายขึ้น เพราะมีเสียงของประชาชนผ่านการทำประชามติคอยสนับสนุนอยู่แล้ว

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า วันนี้ต้องขอฝากนายสมคิดให้นำเรื่องนี้ไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พวกเราอยากพูดคุยหารือร่วมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือว่าคำถามประชามติที่ดีควรเป็นอย่างไร และคำถามที่ได้จะเป็นแบบไหน สุดท้ายประชาชนอย่างพวกเราจะมั่นใจในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างไร และตนอยากฝากอีกคำถามว่าที่พวกเราล่ารายชื่อประชาชนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมามากถึงสองแสนกว่ารายชื่อ ได้มาด้วยความยากลำบาก ขณะนี้คำถามของประชาชนอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว

Advertisement

นายสมคิดกล่าวว่า กรณีที่ยื่นหนังสือถึงเรื่องคำถามการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในที่ประชุมของคณะกรรมการฯพยายามจะบอกเงื่อนไข แต่มีเสียงสะท้อนมาว่าทำไมต้องมีเงื่อนไข ซึ่งความจริงมีหลายกลุ่มและได้ถามเราว่าจะต้องเปิดกว้างในคำถามก่อนหรือไม่ และจะเสี่ยงไหม ซึ่งเราต้องมองสองมุม ฉะนั้น ในเรื่องนี้เรายังคงถกเถียงกันอยู่ ส่วนกรณีการแก้รัฐธรรมนูญ ทุกพรรคการเมืองมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไข ซึ่งในส่วนของ ครม.ยังไม่มีรายละเอียด แต่ในพรรคการเมืองต่างๆ มีเป้าหมายตามแต่ละพรรคอยู่แล้ว และเราก็ต้องนำมารวมกันว่าต้องเป็นอย่างไรถึงจะเดินหน้าต่อได้

นายสมคิดกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องรายชื่อที่ภาคประชาชนได้ยื่นมาให้กับ ครม.นั้น ตนเพียงแต่ทราบแต่ยังไม่เห็นเรื่อง ซึ่งจะให้เลขานายกรัฐมนตรีตามเรื่องให้ ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ อยากให้ทุกส่วนมั่นใจว่าเราจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่ ส่วนประเด็นยิบย่อยจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เราจะอยู่กับรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ทำงานยาก เพราะติดขัดที่ระบบหมด ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน เราร่วมกันแก้เถอะ เชื่อว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลก็คงเห็นตรงกันมากขึ้นในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อาจต้องตกลงเรื่องรายละเอียดกันอีกรอบ แต่อยากให้มั่นใจว่าเราแก้แน่นอน

ในช่วงท้าย น.ส.ภัสราวลีได้ถามไปยังนายสมคิดว่า นายเศรษฐาจะมาพบกับพวกตนหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ทางเราจะประสานให้

เมื่อถามว่า กลุ่ม conforall มองว่าคำถามประชามติที่ดีควรเป็นอย่างไร น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า คำถามที่เรายื่นเป็นหลักประกันที่ดีที่สุดว่ากระบวนการในการร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรจากคณะกรรมการ แต่เราได้เห็นคำถามจากคณะกรรมการที่ออกมาเราก็มีความกังวล เพราะเป็นคำถามที่ต้องตัดสินใจทั้งสองอย่าง เราไม่มั่นใจได้ว่าประชาชนที่ออกไปกาจะสามารถแสดงเจตจำนงในการแก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ และเราเห็นถึงข้อกังวลของคณะกรรมการที่มีต่อหมวด 1 และหมวด 2

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดเราเสนอว่าคำถามประชามติต้องเป็นคำถามที่กว้างและเป็นพื้นฐานที่สุด เช่น ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็เพียงพอแล้ว หากรัฐบาลตั้งคำถามที่เกิดความสับสน หรือทำให้ประชาชนต้องชั่งใจในจุดยืนทางการเมืองกับการอยากแก้รัฐธรรมนูญ มองว่าจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าการแก้ไขปัญหา การล็อกหมวด 1 หมวด 2 ไว้เช่นนี้อาจทำให้ประชาชนตั้งคำถามมากขึ้นว่าเหตุใดถึงต้องล็อกหมวด 1 หมวด 2 เอาไว้

“คาดหวังอย่างยิ่งจะได้เจอนายกฯเศรษฐา ในเมื่อนายกฯไปหลายที่ได้ ขอแค่เพียง 1 คิว เจียดเวลามาเจอ ConforAll เพื่อพูดคุยกันเรื่องคำถามประชามติ รัฐบาลต้องถามความเห็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่จะเอาแต่คำถามที่รัฐบาลรู้สึกว่ามีแรงเสียดทานน้อยที่สุด” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ประชามติเกิดขึ้น พวกเราขอเพียงว่ากระบวนการต้องเริ่มได้แล้ว แม้ยังมีข้อถกเถียงอยู่ว่าจะทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง แต่เราขอให้คำถามประชามติในขั้นเริ่มต้นไม่ซับซ้อนและเปิดกว้างที่สุด ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะทำประชามติปีละครั้ง รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง เรากังวลว่าประชามติจะเสร็จไม่ทันในรัฐบาลนี้ ส่วนเรื่องงบประมาณปี 2567 ที่ฝ่ายค้านชี้ว่าอาจไม่เพียงพอกับการทำประชามติทั้ง 3 ครั้งนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลจะบอกว่าไม่สามารถจัดทำประชามติ และเดินหน้าไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ เนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลแถลง จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด

ด้านนายรัชพงษ์กล่าวว่า หวังว่าจะได้พูดคุยกับนายเศรษฐาภายในสิ้นเดือนนี้ หรือก่อนที่ ครม.จะเคาะคำถามประมติ ทั้งนี้ หัวใจเดียวในการทำประชามติคือประชาชน เพราะปากกาอยู่ในมือประชาชน อย่าเพิ่งนึกถึงท่าทีของสภา หรือ ส.ว.ที่กำลังจะจะหมดอายุ เราคาดหวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะรับฟังเสียงของประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image