ภูมิธรรมแจง เพื่อไทย ยื่นแก้รธน.ได้ ชี้ หากทำประชามติ 2 ครั้ง ประหยัดไป 3 พันล้าน

ภูมิธรรมแจง พท. ยื่นแก้ รธน. มาตรา 256 คู่ขนานรัฐบาล ที่เตรียมชงผลศึกษาต่อ ครม. ไม่เกิน ก.พ.นี้ บอก หากศาลให้ทำ 2 ครั้งได้เป็นเรื่องดี ประหยัดงบกว่า 3,000 ล้าน

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 23 มกราคม ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธนรมนูญ 60 กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ขณะที่รัฐบาลก็เตรียมแก้รัฐธรรมนูญเช่นกันสรุปว่าจะยึดแนวทางใด ว่า การยื่นของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ก็ต้องไปว่าการที่พรรคการเมือง ส่วนของรัฐบาลนั้น หลังจากตนกลับจากต่างประเทศ ก็ทราบว่าเรื่องตั้งอยู่ที่โต๊ะของตนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะนำเรื่องเสนอ ครม.ได้ ไม่เกินปลายเดือน ก.พ.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยหวังว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดประเด็นขัดแย้งเพื่อให้ประธานรัฐสภา เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่าทำประชามติกี่ครั้ง ถือว่าเป็นความประสงค์ของรัฐบาลด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งประเด็นให้เกิดความขัดแย้ง แต่ฝ่ายการเมืองมีความเป็นห่วง และรวมถึงรัฐบาลก็เป็นห่วงเช่นกันว่าจะทำประชามติให้ถูกต้องกี่ครั้ง เพราะมีหลายคนยืนยันว่าทำแค่ 2 ครั้งก็พอ ถ้าได้ 2 ครั้งจริงก็ประหยัดเงินไปได้กว่า 3,000 ล้าน แต่หากว่ามีหลักประกันว่า ใช้เงินเพิ่มแล้วรัฐธรรมนูญผ่าน เราก็ยินดี

แต่ถ้าประหยัดได้โดยศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ก็จะสามารถทำได้ แต่หากรัฐบาลไปถามกับศาลเองก็จะไม่มีคำตอบอะไร เพราะเหตุยังไม่เกิด ศาลอาจจะไม่รับวินิจฉัย” นายภูมิธรรมกล่าว

Advertisement

นายภูมิธรรมกล่าวต่ออีกว่า แต่หากสภาเสนอเข้าไป และมีการคุยกัน หากเกิดความขัดแย้ง เหตุมันเกิดก็จะสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งก็ไม่แตกต่างอะไร กับคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 60 ที่รัฐบาลตั้งขึ้น และหากศาลบอกทางประชามติเพียง 2 ครั้ง เราก็จะไม่มีปัญหาแต่หากบอก 3 ครั้ง ก็เป็นเรื่องที่เราเตรียมการไว้แล้ว หากจะติดก็คงจะเป็นเรื่องการค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นกว่า 3 พันล้าน

“เรื่องของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นเรื่องของสภา ว่าไป ขณะที่รัฐบาล หากพร้อมเมื่อไหร่ ก็จะสามารถส่งร่างของรัฐบาลตามเข้าไป ถือว่าเป็นบทบาทที่แยกกัน เพราะนั่นคือหน้าที่ของสภา ของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไรก็ว่าไป แต่ส่วนของรัฐบาล ก็จะเสนอในสิ่งที่รัฐบาลเห็นควรทำ เพราะได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว” นายภูมิธรรมกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image