พิธา-ชัยธวัช เข้าฟังคำวินิจฉัยศาล รธน. มั่นใจหลักฐานรอดคดีหุ้นไอทีวี พร้อมลุยงานการเมืองช่วย ปชช. แฟนคลับตะโกนเชียร์ “นายกฯพิธา” ในดวงใจ
เมื่อวันที่ 24 มกราคม จากกรณีที่องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุม ปรึกษาหารือ ลงมติ และออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
โดยศาลจะแถลงคำวินิจฉัยในเวลา 14.00 น. ผ่านช่องทางยูทูบ “ศาลรัฐธรรมนูญ”
เวลา 12.45 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและสดใส โดยนายพิธาให้สัมภาษณ์ก่อนรับฟังคำวินิจฉัยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ทำงานหนักตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ช่วยทำคำแถลงปิดคดี ส่วนตนเองมั่นใจข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์ของตัวเอง และยังได้เตรียมแผนการดำเนินงานของพรรค ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรจะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป โดยวันเสาร์ อาทิตย์นี้จะลงพื้นที่เหมือนเดิม ส่วนกรณีที่กลับเข้าสภาได้ จะเข้าได้เมื่อไหร่นั้น คงต้องคุยกับประธานสภาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการจัดการเรื่องเอกสารจะต้องใช้เวลา โดยตนเองจะให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ
“วันนี้ขอฟังคำวินิจฉัยก่อน ผมยังมั่นใจในบรรทัดฐานคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งหากใครได้ลงรายละเอียดจะเข้าใจว่าการเป็นสื่อมวลชนนั้น จะต้องมีใบประกอบกิจการอะไรบ้าง” นายพิธากล่าว และว่า สิ่งแรกที่จะทำทันที หลังฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ลงพื้นที่ภาคเหนือ
เมื่อถามว่ามีข้อกังวลใจอะไรบ้างหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่มีข้อกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงในอดีตหรือสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งอนาคตก็ยังรับใช้พี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลในการจัดทำแผนการทำงานของพรรคก้าวไกล ในปี 2567
ถามว่าคาดว่ามติของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นเอกฉันท์หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ตนไม่อาจก้าวล่วงในเรื่องนี้ได้ คงต้องรอฟังอย่างเดียว
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า อาจจะซ้ำรอยกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธากล่าวว่า หากศาลลงรายละเอียด โดยกรณีของนายธนาธรนั้น มีเอกสารที่สามารถพิจารณาได้ว่ายังสามารถประกอบกิจการได้ แต่กรณีของบริษัทไอทีวี ทาง กสทช.ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีคลื่นความถี่ ไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจได้ ที่สำคัญคือตนได้โอนหุ้นให้กับน้องชายแล้ว ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับทางบริษัทไอทีวี
ถามว่า กระบวนการหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ตนและนายชัยธวัชไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ตนแค่ต้องการทำงาน ในช่วงเดือน เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มีประชาชน เจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ จำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ หลังจบการสัมภาษณ์ต่างกรูกันเข้ามาหานายพิธา พร้อมตะโกนคำว่า “นายกฯ พิธา”, “นายกฯ ในดวงใจ”
