ภูมิธรรม รับเห็นใจก้าวไกล พท.เคยอยู่ในชะตากรรมนี้ ชี้แก้ 112 ไม่ใช่ใครมายื่น แล้วจะรับปากได้

‘ภูมิธรรม’ ชี้ แก้ 112 ไม่ใช่อยู่ๆ จะรับปากได้ ลั่น ต้องทำให้สถาบันเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง รับเห็นใจ ‘ก้าวไกล’ เพราะเคยอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน บอก ตอนนี้ควรใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ ปชช.ก่อน

เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค พท.ระบุว่าจะแก้ไขประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ว่า เราพูดอยู่เสมอว่า เรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และการจะกระทำเรื่องนี้ได้ ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ให้เรามารับปากว่าจะไปแก้ไขมาตรา 112 เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และวันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจน

นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ฉะนั้น หากเราจะแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนก็มีเรื่องสำคัญจำนวนมาก ทั้งในเรื่องชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน ความยากลำบาก เศรษฐกิจ ยาเสพติด สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราทำกันได้เต็มที่ในส่วนของพี่น้องประชาชนและพรรคการเมืองทุกฝ่าย ย้ำว่าเรื่องนโยบายที่เป็นการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนเราสามารถทำได้หมด ทำได้เต็มที่ ส่วนเรื่องที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่เป็นกลางทางการเมืองนั้น เราก็ควรให้สถาบันได้เป็นกลางอย่างแท้จริง และเราไม่ควรต้องมาพิจารณาเช่นนี้

“จริงๆ ผมเห็นใจพรรคก้าวไกล เพราะเคยอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญปัญหาในการทำงานพรรคการเมืองต่างๆ นั้นต้องอยู่ที่จุดสมดุล ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แนวทางในการพิจารณาการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการต่างๆ จุดสมดุลคือในรัฐประชาธิปไตยทุกที่เขายอมรับความแตกต่าง สงวนความแตกต่างได้ และความแตกต่างที่อยู่ในรูปแบบนี้เป็นความแตกต่างที่มีอิสระของตัวเอง เราต้องเคารพทั้งหมด และต้องหาจุดสมดุลที่เพียงพอ ไม่มีความคิดใครเก่งที่สุด ไม่มีความคิดใครดีที่สุด ไม่มีความคิดใครเป็นประชาธิปไตยกว่ากัน วันนี้แม้เขาจะมี ส.ส.มาคนเดียว สองคน สิบคน เขาล้วนเป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือกเขามาทั้งนั้น” นายภูมิธรรมกล่าว

ADVERTISMENT

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ฉะนั้น การคำนึงถึงหลายเรื่องที่จะไปเกี่ยวพันกับชีวิตพี่น้องประชาชน เกี่ยวข้องกับโครงสร้างกับสถาบันทางการเมือง เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ล้วนแต่ต้องคำนึงถึงความเห็นและต้องเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างกัน หากเป็นเช่นนี้การทำงานทางการเมือง เราก็จะเข้าใจความต้องการของคนทุกส่วน คนทุกกลุ่มได้ดีกว่านี้ สามารถร่วมมือกันเดินทางไปในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศได้สูงสุดกว่านี้

เมื่อถามว่า พรรค พท.ไม่เคยหาเสียงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราระมัดระวังเรื่องมาตรา 112 แม้กระทั่งมีตัวแทนมายื่นหนังสือกับเรา ให้เรารับ เราก็ชี้แจงไปว่าเรื่องนี้เราเห็นเช่นนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง และปฏิบัติอย่างเหมาะสม หรือแม้กระทั่งที่มีกลุ่มเยาวชนมายื่นหนังสือกับเรา เราก็ได้แถลงแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าตัดสินใจไปเช่นไรก็มีผลกระทบที่คนส่วนหนึ่งเห็นด้วยและคนส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย และหากเป็นเช่นนี้ก็จะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ให้กับสังคม เราจึงบอกว่าจะต้องทำให้เกิดฉันทามติ พูดคุยกันอย่างเรียบร้อย หากคิดว่าสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องไปตัดสินใจ

ADVERTISMENT

นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ฉะนั้น วันนี้จึงคิดว่าเราควรใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนก่อน หากเราบอกว่ารักประชาชน แล้วเราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางก็จะพบว่าขณะนี้ประชาชนกำลังยากลำบากมาก จะบอกว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤตให้ลงไปดูของจริง ไปเดินตลาด หรือไปดูนักธุรกิจรายเล็กรายย่อยทั้งหมด เขาพูดเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งสภาอุตสาหกรรมเขาก็ยืนยัน ฉะนั้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจสามารถพูดได้หลายอย่าง แต่เราควรต้องเอาวิชาการมาผสมกับความเข้าใจและความเห็นใจพี่น้องประชาชน จึงเป็นระบบทุนนิยมที่มีจิตใจที่ดีที่จะคำนึงถึง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image