ไม่ได้ไม่กลับ! ‘พีมูฟ’ ช้ำใจ สัญญาไว้ทำตรงข้าม รุกไล่ชาวบ้าน ชวนหนุนเสบียง-เปิดศักราชม็อบยาวๆ ทวง ‘โฉนดชุมชน’ หน้าทำเนียบ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ นำโดย นายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานพีมูฟ และ นายจำนงค์ หนูพันธ์ พร้อมด้วยชาวบ้านจากหลากหลายภูมิภาค เดินทางมารวมตัวเพื่อปักหลักชุมนุมโดยไม่มีกำหนด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลร่วมเจรจาผลักดันนโยบายสิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากร
บรรยากาศเวลา 09.40 น. บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต นำป้ายไวนิลซึ่งมีข้อความ ประกาศ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 7 วรรคท้าย โดยขอให้ย้ายไปจัดการชุมนุมบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ภายในเวลา 12.00 น. อย่างไรก็ดี พีมูฟ ยืนยันปักหลักชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไป จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ
ต่อมาเวลา 10.30 น. กลุ่มพีมูฟ ยืนตัวแถวพร้อมชูป้ายผ้า ที่มีข้อความว่า “เสรีภาพ ประชาธิปไตย และความเป็นธรรม”
นายธีรเนตรกล่าวว่า ตั้งแต่มีการเปลี่ยนรัฐบาล เป็นครั้งแรกที่พีมูฟมาติดตาม หลังจากผ่านมา 7 ครั้ง เพราะรัฐบาลไม่มีการดำเนินการตามที่ตกลงไว้ คณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ไม่มีการประชุม เราจึงมาติดตามให้มีการแก้ไข
จากนั้น ร่วมแถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ฉบับที่ 1 เรื่อง ประกาศปักหลักชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ ทวงสัญญาประชาชน ความว่า
นับเป็นเวลากว่า 3 เดือน หลังพวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ได้ปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน พวกเราได้ลงแรง ลงใจ พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้านให้ปรากฏแก่สาธารณชน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ข้อเสนอเรื่องปากท้อง ที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย สิทธิในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและภัยพิบัติ สิทธิและสถานะบุคคล ความเป็นคนและศักดิ์ศรีของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การกระจายอำนาจ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2566
อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายและรายกรณีของรัฐบาลชุดนี้ช่างล่าช้า ในหลายครั้งก็เฉไฉ ไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน การกระทำตรงกันข้ามกับปากพูด เปิดทางให้ราชการใช้อำนาจกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมไล่รุกชาวบ้าน ทั้งการดำเนินคดี ยึดที่ทำกิน ขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ดั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งหายนะที่เกิดแก่ประชาชนคนยากคนจนเช่นนี้ ก็สืบเนื่องจากฝ่ายนโยบายมีความเพิกเฉย จิตใจที่เย็นชา และความหน้ามืดตาบอดจนมองไม่เห็นและไม่อาจรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ร้อนของประชาชน
เป็นต้นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าพบ ไม่เคยมอบนโยบายอันเป็นประโยชน์และเป็นธรรมต่อการแก้ไขปัญหาและคืนสิทธิให้ประชาชน ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะปรับแก้กฎหมายและนโยบายเดิมที่ล้าสมัยและเป็นภัยคุกคามต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล เป็นเหตุให้ขณะนี้พีมูฟมีกรณีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากถึง 169 กรณี คิดเป็นจำนวนมากถึง 63.5 ของจำนวนกรณีปัญหาทั้งหมดในพีมูฟ และมีกรณีเร่งด่วนมากถึง 13 กรณี ที่ชาวบ้านกำลังถูกไล่ที่ จับกุมดำเนินคดี เสี่ยงคุกตาราง
และเป็นต้นว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่กำกับดูแลโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
“ขณะนี้เราขอเรียนว่า สคทช. กำลังพยายามทำลายแนวทางสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือโฉนดชุมชน โดยการแบ่งแยก ยุยงให้ประชาชนในพื้นที่ต้องแตกแยกในเรื่องแนวทางแก้ปัญหา เป็นเครื่องมือของหน่วยงานราชการอื่นๆ ในการแย่งยึดที่ดินของประชาชนด้วยการบีบให้คนจนต้องรับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งเป็นมรดกบาปจากรัฐบาล คสช.
“เมื่อรัฐบาลบิดพลิ้ว หน่วยงานรุกไล่ เฉื่อยชาเฉไฉ ไม่แก้ปัญหา คนจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ก็ถึงเวลาทวงสัญญาประชาชน วันนี้พวกเราพีมูฟขอประกาศเปิดศักราชการชุมนุมปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปอย่างไม่มีกำหนด ณ ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมด” นายธีรเนตรกล่าว
โดยข้อเรียกร้องมีดังนี้
1.เดินหน้าโฉนดชุมชน ยุติการคุกคามประชาชนด้วย คทช. โดยต้องเปิดประชุมคณะกรรมการโฉนดชุมชนและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
2.แก้ปัญหาเรื่องด่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเราขอเปิดเจรจากับรัฐมนตรี พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อหารือกรอบแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งระบบรายกรณีและนโยบาย และหากไม่เปิดโอกาสให้เราได้เข้าพบ เราจะไม่ร่วมประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
3.เปิดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งมี ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานต่อไป
นายธีรเนตรกล่าวต่อว่า เรายืนยันว่าพร้อมปักหลักชุมนุมยาว และขอประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายร่วมให้การสนับสนุน ทั้งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม ยาสามัญ เครื่องนอน เครื่องครัว และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ สำหรับการชุมนุมปักหลักค้างคืน
“รวมถึงขอเชิญชวนพี่น้องเข้าร่วมการชุมนุมของพวกเรากลุ่มพีมูฟได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน” นายธีรเนตรกล่าว