โผล่เซอร์ไพรส์! เอกชัย พ้นคุก เล่าชีวิตใกล้ความตาย ลั่น สู้ต่อ! หนุน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม

โผล่เซอร์ไพรส์! เอกชัย พ้นคุก เล่าชีวิตใกล้ความตาย ลั่น สู้ต่อ! หนุน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ณ อาคาร ALL RISE (ILAW) บ้านกลางเมืองรัชดา เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จัดเสวนา “นิรโทษกรรมประชาชน (สักที!)” นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์, น.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา และนางนภัสสรณ์ บุญรีย์ โดยมี นายอานนท์ ชวาลาวัณย์ ผู้จัดการไอลอว์ ผู้ดำเนินรายการ เป็นต้น เพื่อผลักดันการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับประชาชนเข้าสู่รัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ได้รับการปล่อยตัวแล้วเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 ก.พ.) ปรากฏตัวขึ้นเพื่อร่วมพูดคุย ถึงประสบการณ์ถูกคุมขัง พร้อมด้วยอาการป่วยภายในเรือนจำ จนตรวจพบฝีที่ตับ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน

ในตอนหนึ่งของการเสวนา นายเอกชัยกล่าวว่า ตั้งแต่เคลื่อนไหวการเมืองมา เริ่มจากการเป็นผู้ชุมนุม จนมาเป็นนักเคลื่อนไหว การถูกคุมขับครั้งล่าสุด นับเป็นครั้งที่ 6 นั้น เป็นการถูกคุมขังที่หนักสุด เนื่องจากป่วยร่วมด้วย ลำพังทุกทีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอดีอยู่เรือนจำได้ 2 เดือน ก็ป่วยจนต้องส่งไปโรงพยาบาล

Advertisement

“ตอนนั้นมีการตัวเหลือง ตาเหลือง พอเรานอนอยู่ในห้อง คนอื่นทักว่า ทำไมดูตาเหลือง เราก็เลยนึกถึงตอนปี 2548 ซึ่งเคยป่วยเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง เราก็คิดว่าแสดงว่าตับเรามีปัญหา เราก็เลยขอไปหาหมอ หมอก็ลงความเห็นว่าให้แอดมิดคืนนั้น วันที่ 8 กันยายน

หลังจากอัลตร้าซาวน์พบก้อนเนื้อ ซึ่งตอนนั้นหมอกังวลว่าจะเป็นมะเร็งตับ แต่พอไปทำ CT Scan ก็พบว่าเป็นฝีในตับ ซึ่งมีการรักษาที่ง่ายกว่ามาก โชคดีว่ามันไม่ได้หนักถึงขั้นเป็นโรคมะเร็ง แต่ก็ทำให้เราทรมาน เพราะเราต้องไปเจาะหนอง 10 วัน มีเข็มห้อยอยู่ตรงท้องตลอด 10 วัน แทบจะลุกจากเตียง ลุกไม่ได้เลย ค่อนข้างลำบาก ถือว่าการติดคุกครั้งนี้เป็นการติดคุกที่ทรมานมากที่สุด” นายเอกชัยเผย

นายเอกชัยกล่าวว่า เราอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ 5 เดือน เพื่ออยู่รักษาตัว และต้องไปอยู่โรงพยาบาลราชวิถีอีก 10 วัน เพื่อต้องเจาะระบายหนอง พอหนองหมดแล้ว ก็ค่อยย้ายกลับมาโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อพักฟื้นและทานยาฆ่าเชื้อ เพราะแม้หนองที่เจาะออกแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็มีส่วนที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งเชื้อมันก็ยังไม่ตาย ยังสามารถผลิตหนองได้อีก ต้องทานยาอีกหลายเดือนจนกว่าแผลจะแห้ง หนองจะหยุด

Advertisement

“ถึงผมออกมาวันนี้หมอก็ให้ใบเอกสารอะไรมา เพราะผมจะต้องไปพบแพทย์อีกเดือนหน้า เพื่อไปทำ CT Scan อีก ต้องถือว่าครั้งนี้หนักสุดตั้งแต่อยู่มา เราไม่เคยคิดเลยว่าติดคุกแล้ว ต้องมาป่วยในคุกอีก เพราะในคุกเวลาเราป่วยมันไม่เหมือนกันเราป่วยอยู่ข้างนอก คนที่เคยติดคุยมาจะรู้ว่า เวลาป่วยในคุกจะลำบากมาก เพราะการจะหายากินมันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะถ้าจะออกมาโรงพยาบาล ถ้าอาการไม่หนักถึงจนขนาดที่ว่าเกือบตาย คงไม่ได้ออกมาโรงพยาบาลหรอก” นายเอกชัยระบุ

นายเอกชัยกล่าวว่า ตนอยู่ในคุกเจอคนที่ตายในคุกบ่อยมาก เจอประจำทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งตนเจอคนตายคาห้องขังที่นอนด้วยกัน ต้องนอนกับศพจนถึงเช้า เพราะเขาตายตอน 4 ทุ่ม ไม่มีการมาเบิกศพ ต้องนอนกับศพยันเช้า รอจนเขาเปิดประตูให้ลงมา

“พอมาอยู่โรงพยาบาลก็เจอคนตายบ่อย อยู่เดือนหนึ่งอย่างน้อยต้องมีคนตายหนึ่งคน เป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่ในโรงพยาบาล จะเป็นพวกอาการหนัก เพราะฉะนั้นครั้งนี้ผมคิดว่าหนักสุดแล้ว เรียกว่าใกล้ความตายได้เลย มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ทุกข์ทรมาน แต่ครั้งนี้ใกล้ความตายเลย” นายเอกชัยเผย

นายเอกชัยกล่าวว่า ขั้นตอนการออกไปรักษาตัวข้างนอกไม่ยุ่งยาก เพราะโรงพยาบาลเขาทำให้ทั้งหมด แต่หลังจากไปพบหมอ 10 วัน แล้วเรากลับมา เขาก็จะนัดอีกประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็จะส่งออกไปพบแพทย์ แล้วก็กลับ ไม่ต้องรอหมอนาน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ดี นอกนั้นไม่ดี

นายเอกชัยกล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแน่นอน และเห็นด้วยมานาน ตั้งแต่ปี 2555 รัฐบาลเพื่อไทยเคยมีความพยายามที่จะทำนิรโทษกรรม ตนก็อ่านร่างตั้งปี 2555 และอีกหลายร่าง เท่าที่อ่านมาร่างของไอลอว์ (iLaw) แม้จะมีน้อยมาตรา แต่มีความน่าสนใจตรงที่เขียนแบบกว้าง ซึ่งให้กรรมการพิจารณาว่ากรณีใดจะเข้าข่ายกับพ.ร.บ.นี้ คล้ายกับการพักโทษในเรือนจำ

“ไม่เห็นด้วยกับการเขียนเจาะจงเลยว่า มาตรานี้ได้นิรโทษ มารตรานี้ไม่ได้นิรโทษ แต่เขียนไว้แบบกว้างๆ เกี่ยวกับคดีการเมือง การเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกในม็อบ นอกม็อบ อะไรก็ตาม แต่ถ้าแสดงออกทางการเมืองมีสิทธิเข้าข่ายการนิรโทษกรรม แล้วค่อยมาพิจารณาเป็นเคส ว่าเคสไหนที่จะได้นิรโทษกรรม หรือ บางทีอาจจะมีลักษระของการลดโทษ เช่น กรณีคุณทักษิณ ชินวัตร ที่มีการลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปีก็ได้ เขียนกว้างแบบนี้ดี” นายเอกชัยชี้

นายเอกชัยกล่าวว่า อยากให้เพิ่มเติมอีกว่า ตนโดนมา 30 คดี จบไปแล้ว 18 คดี เหลือรอสั่งฟ้องอีก 9 คดี ซึ่งถ้ามีพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระหว่างการรอสั่งฟ้องก็อาจจะถูกนิรโทษไป แต่ที่ผ่านมา 18 คดีที่จบไป ติดคุกอยู่ 2 คดี ปรับ 1 คดี มันจบไปแล้วอยากจะให้พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คดีที่ยังไม่จบ หรือ กำลังติดคุก

“อยากให้เพิ่มเติมในส่วนของคนที่ติดคุกไปแล้ว จบไปแล้ว ซึ่งแน่นอนไม่ได้มีผมคนเดียว มีเยอะเลยตั้งแต่ปี 2553 อยากให้มี 2 อย่าง คือ เยียวยา เหมือนตอนรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติ ค.ร.ม.เยียวยาผู้เสียชีวิต 7 ล้าน 5 แสน หรือ คนที่กำลังติดคุก ติดคุกออกมาแล้ว ก็อยากให้มีการเยียวยาในส่วนนี้ ” นายเอกชัยระบุ

นายเอกชัยกล่าวว่า อีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้เพิ่มเติม คือ เรื่องสิทธิทางการเมือง ตัดสิทธิคนที่ออกจากคุกไปอีก 10 ปี ซึ่งกรณีของตนถูกตัดไปจนถึง 2577 อยากให้มีการคินสิทธิการเมืองให้เขา เสมือนกับว่า เขาไม่เคยต้องคดีอาญามาก่อน เฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการเมือง แต่ถ้าเป็นคดีอื่นไม่เกี่ยว เขาจะได้มีสิทธิกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งด้วย จึงอยากให้เพิ่มส่วนนี้เข้าไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image