‘เศรษฐา’ น้อมรับข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. ปิดช่องทุจริตดิจิทัลวอลเล็ต แจงบอร์ดชุดใหญ่ตั้งอนุกก.ดูแลอยู่แล้ว ชี้ อำนาจรัฐบาลแจกกลุ่มเปราะบางตามนิยาม ข้องใจแค่ไหนถึงเข้าเกณฑ์ ด้าน ‘จุลพันธ์’ เผยกก.ชุดใหญ่ประชุมสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ได้อ่านจากเฮดไลน์คร่าวๆ ซึ่งเรื่องของการทุจริต ในการประชุมของคณะกรรมการชุดใหญ่ในเรื่องนี้ คงมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ ยืนยันว่าต้องตอบคำถามเรื่องนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอแนะส่วนหนึ่งเหมือนต้องการให้รัฐบาลระมัดระวังเรื่องการแจกเงิน นายเศรษฐา กล่าวว่า ระมัดระวังอยู่แล้ว อย่างที่ตนเรียน จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ มีกลไกที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เมื่อถามว่าจะมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าคณะทำงานคงทำทุกอย่างที่ต้องเป็นการปกป้องและดูแลเรื่องผลประโยชน์อย่างสูงสุดของพี่น้องประชาชน อาทิตย์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่อีกทีหนึ่ง หลังจากนั้นคงมีการแถลงใหญ่
เมื่อถามเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณทาง ป.ป.ช. แนะให้กลับมาใช้งบประมาณประจำปีปกติ ดีกว่าการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน นายเศรษฐา กล่าวว่า “อันนี้เดี๋ยวต้องไปคุยกัน ก็เพิ่งทราบเหมือนกัน”
เมื่อถามอีกว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยเลย ต้องดูความเหมาะสมก่อน เมื่อถามว่าข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. ถึงขั้นให้ปรับเกณฑ์แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อย นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องไปดูเรื่องของหน้าที่ และสิ่งที่ ป.ป.ช.บอกมาว่าอย่างไรและเหตุผลคืออะไร ซึ่งก็ต้องดูหน้าที่ของ ป.ป.ช.คือการตรวจสอบ ทุจริตประพฤติมิชอบใช่หรือไม่ ส่วนนโยบายว่าจะให้ใครบ้างเป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องคำนึงถึงและน้อมรับคำและข้อสังเกตเรื่องของการทุจริต ตนเน้นตรงนี้ดีกว่าที่เกี่ยวข้องกับทาง ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช.สบายใจว่าตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
”อย่างที่บอกเรื่องของคนเปราะบาง เริ่มจากวันแรกที่เราพูดคุยกันแล้วว่า ตรงไหนคือเปราะบาง ตรงไหนคือไม่เปราะบาง ถ้าผมบอกว่าต่ำกว่า 20,000 บาท เป็นคนเปราะบาง ถ้าสูงกว่า 20,000 บาทไม่เปราะบาง หากคุณได้เงินเดือน 20,000 บาท คุณจะโต้เถียงหรือไม่ เพราะผมก็เปราะบางเหมือนกัน ผมก็มีหนี้เยอะ ต้องการการกระตุ้นเหมือนกันใช่ไหมครับ อันนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหมือนกัน ฉะนั้นทาง ป.ป.ช.หน้าที่ของท่านที่เสนอมาในเรื่องของการทุจริตต้องระมัดระวังตรงนี้ น้อมรับครับ“ นายเศรษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดหนึ่งในเรื่องการหาเสียงบอกว่าจะไม่กู้ แต่สุดท้ายประกาศออก พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อมาใช้ในโครงการดังกล่าวตรงนี้จะอธิบายอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องอธิบายให้ได้และต้องอธิบายให้เข้าใจ ขอดูทางออกสุดท้ายก่อน
เมื่อถามว่า ความเห็นของ ป.ป.ช.แบบนี้ไม่ได้ทำให้รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนความคิดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันทุกความเห็นเราต้องมาคำนึงถึงใหม่หมด
เมื่อถามว่ายังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะฝ่าวิกฤตความเห็นต่างตรงนี้ไปได้ และสามารถแจกเงินดิจิทัลได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนว่าเป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทย เราเองเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง มีพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมต้องยอมรับได้ ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่เราต้องบริหารความคาดหวังซึ่งกันและกัน ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและความไม่ก้าวร้าวซึ่งกันและกัน ฉะนั้นตรงนี้ต้องบริหารกันไป
เมื่อถามว่ารู้สึกเหมือนถูกบีบให้ถอยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า จะเป็นช่วงต้นสัปดาห์หน้า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับ แต่รอให้ชัดๆ ก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ป.ป.ช.แถลงแล้ว ดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ 4 ประเด็นเสี่ยง จี้กกต.สอบนโยบายเพื่อไทยหาเสียง